บิ๊ก ศรุต แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดขาฉิ่ง

นักแสดงหนุ่ม “บิ๊ก ศรุต” แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดหัวเข่า เนื่องจากมีอาการขาฉิ่ง หรือ Knock Knee ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถใช้ชีวิตหรือออกกำลังกายโดยการวิ่งได้เป็นปกติ ซึ่งก่อนจะผ่าตัด เจ้าตัว ทั้งเจ็บและทรมาน ล่าสุด หนุ่มบิ๊ก ได้ออกเล่าผ่าน IG ส่วนตัว ให้ทุกคนสังเกตถ้ามีลักษณะอาการคล้ายคลึงกัน


“Knock knee คืออาการขาฉิ่ง หรือที่เขาเรียกว่า ขาเป็ด ท่าเดินเหมือนเป็ด จากที่ปกติขาเราจะต้องตรงทั้ง 2 ข้าง แต่กลายเป็นว่าหัวเข่ามันเบียดกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับขาโก่ง ที่ลักษณะหัวเข่ามันออกไปด้านนอก โดยในกรณีของผม ขาซ้ายผม Knock เยอะกว่าขาขวา และทำให้ขาซ้ายเตี้ยกว่าขาขวา สะโพกซ้ายเตี้ยกว่าสะโพกขวา ซึ่งก่อนผ่าตัดผมค่อนข้างที่จะเจ็บมาก ๆ เจ็บที่หัวเข่าด้านนอก คือผมต้องอธิบายก่อนว่า หัวเข่ามันคือคนละเรื่องกันนะ เพราะหัวเข่าผมยังสมบูรณ์ ยังดีอยู่มากเลย และที่ผมเจ็บมันไม่ได้เกิดจากหัวเข่า แต่มันเกิดจากกระดูดอ่อนที่รองหัวเข่ากับหน้าแข้ง

เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมเคยไปปรึกษาคุณหมอ ตอนนั้นคุณหมอก็บอกให้ผมหยุดวิ่ง เพราะการวิ่งมันจะกระทบกระเทือนเยอะ คือมันไม่ได้เกี่ยวกับการวิ่งนะ การวิ่งทำให้สุขภาพดี เพียงแต่สุขภาพสำหรับขาอย่างผม ยิ่งวิ่งกระดูกอ่อนยิ่งไม่ดี เนื่องจากขาแบบผม มันไม่ใช่ขาที่สมบูรณ์ มันเป็นขาที่มีปัญหา ตอนนั้นผมก็หยุดวิ่งไป และเริ่มออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน รวมถึงการเดิน จนมาถึงช่วงหลังๆ ที่ผมเดิน คือเดินธรรมดาเลยครับ แต่มันเจ็บมาก เจ็บเข่ามาก และก่อนที่จะผ่าตัดช่วงอาทิตย์สุดท้าย คืออยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเจ็บแล้ว เพราะว่ากระดูกอ่อนที่มันรองอยู่ มันเหลือบางมากนิดเดียว ฉะนั้นการผ่าตัดครั้งนี้ของผม มันจึงเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับโครงสร้างของขาให้อยู่ในองศาที่ถูกต้อง ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการพักฟื้นแล้ว และก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ”


ซึ่ง หนุ่มบิ๊ก ยังโพสต์ฟิล์มเอ็กซเรย์เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ให้ทุกคนได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น โดยหวังว่าสิ่งที่ตนเองนำมาแชร์นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน พร้อมกับแคปชันว่า “หลายคนอาจสงสัยว่า Knock knee ที่ผมเป็นคืออะไร? วันนี้ผมถ่ายฟิล์ม X-Ray ผมมาให้ดูนะครับจะได้เห็นภาพชัด ๆ กันไปเลย วันนี้ผมไป follow up กับคุณหมอมา ขาข้างขวาวันนี้ทำการปรับองศาใหม่อีก 2° ครับ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในองศาที่ดีและถูกต้องแล้ว จากนี้ก็ไปพบคุณหมอทุกอาทิตย์จนกว่าจะถอดอุปกรณ์ออกครับ

ในฟิล์ม X-Ray ให้สังเกตที่แนวต้นขากับหน้าแข้งของผมก่อนผ่ากับหลังผ่าดูนะครับ ก่อนผ่าเข่าบีบเข้าหากันเยอะอยู่ครับ (ขาฉิ่ง) หลังผ่ารูปร่างของขาโดยรวมเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ บางทีเรามองด้วยตาเปล่าเราแทบไม่รู้สึกนะครับ แต่ในฟิล์มนี่ชัดเลยครับผม หวังว่าโพสต์นี้คงจะมีประโยชน์บ้างกับคนที่เป็นเหมือนผมหรือมีคนรู้จักเป็นนะครับ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของทุกคนครับ” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 185 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม