หนังตลกร้ายเรื่อง Vice ผลงานการกำกับและเขียนบทของ อดัม แมคเคย์ ที่ตีแผ่ชีวิตของอดีตรองประธานาธิบดีคนดังในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน Dick Cheney (ดิ๊ก เชนีย์) นำโด่งเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 76 มากที่สุดถึง 6 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือภาพยนตร์ตลก ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ที่ คริสเตียน เบล ผู้รับบท Dick Cheney มีลุ้นไม่น้อย ขณะที่ แซม ร็อกเวลล์ และ เอมี่ อดัมส์ เข้าชิงนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม
รองมาคือหนังย้อนยุค The Favourite ที่มีลุ้น 5 สาขา โดยตามไปเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของ Vice ในสาขาใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แถมนักแสดงหญิงในเรื่องยังพาเหรดกันเข้าชิงรางวัลแบบพร้อมหน้า ทั้ง โอลิเวีย โคลแมน ที่เข้าชิงนำหญิงยอดเยี่ยม ส่วน เอ็มม่า สโตน กับ ราเชล ไวส์ กลายเป็นคู่แข่งกันเองในสาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยม พ่วงด้วยรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปอีก 1
ส่วน Green Book ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับความผูกพันของนักเปียโนผิวสี กับ บอดี้การ์ดและคนขับรถผิวขาว ก็ไม่น้อยหน้า เข้าชิง 5 รางวัลเท่ากัน โดยเฉพาะรางวัลหลักๆ อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และที่น่าจับตา คือ 2 นักแสดงนำ วิกโก มอร์เทนเซน ที่เข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ มาเฮอชาลา อาลี ติดโผในสาขาสมทบชายยอดเยี่ยม
และที่เข้าชิงไป 5 รางวัลเหมือนกัน คือ A Star Is Born หนังดราม่าขวัญใจนักวิจารณ์ ที่ไม่เพียงมีลุ้นรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม เท่านั้น แบรดลี่ย์ คูเปอร์ ซึ่งควบตำแหน่ง นักแสดงนำและผู้กำกับ ก็มีลุ้นทั้งสองรางวัลนี้ไปแบบไม่พลิกโผ เช่นเดียวกับ เลดี้ กาก้า ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม จนได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รวมถึงเพลง Shallow ยังมีลุ้นอย่างมากกับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
โดยหนังอีก 4 เรื่องที่ตามไปเป็นคู่แข่งกับ A Star Is Born ในสาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม ได้แก่ ซูเปอร์ฮีโร่เสือดำ Black Panther ที่เข้าชิงไปทั้งหมด 3 รางวัล หนังเล่าความยิ่งใหญ่ของวง Queen อย่าง Bohemian Rhapsody หนังสะท้อนปัญหาการเหยียดสีผิว BlacKkKlansman ของผู้กำกับ สไปก์ ลี ที่มีลุ้นถึง 4 รางวัล และ If Beale Street Could Talk ซึ่งเล่าเรื่องของผู้หญิงผิวสีที่ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้สามี ก่อนที่ลูกในท้องจะคลอด
แต่ที่น่าเสียดาย คือ หนังเม็กซิกันเรื่อง Roma ของผู้กำกับ อัลฟองโซ คัวรอน ที่หมดสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เพราะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษหลักในเรื่อง แต่ก็ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม รวมถึง อัลฟองโซ ก็มีลุ้นรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
