ถึงจะหมดสิทธิเข้าชิงรางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เพราะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่อง แต่หนังขาวดำของผู้กำกับชาวเม็กซิกัน อัลฟองโซ คัวรอง เรื่อง Roma ก็ยังคงไว้ลาย คว้า 2 รางวัลสำคัญ คือ ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครองแบบไม่พลิกโผ
แต่ชวดรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ให้กับหนังสะท้อนปัญหาการเหยียดเชื้อชาติในแบบ ฟีล กู๊ด เรื่อง Green Book ไปแทน และที่เจ๋งไปกว่านั้น คือ Green Book ยังเป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือภาพยนตร์เพลงด้วย โดยที่นักแสดงมากฝีมือ มาเฮอร์ชาลา อาลี ผู้รับบทนักเปียโนผิวสีมาดผู้ดีในเรื่อง ก็ไม่พลาดรางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกด้วย
ส่วนหนังชีวประวัติเฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี่ นักร้องนำผู้ล่วงลับของวง Queen — Bohemian Rhapsody ก็ไม่พลาดคว้ารางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม ไปครองท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างท่วมท้นๆ พร้อมกับที่นักแสดงหนุ่ม เรมี่ มาเลก ก็ไม่พลาด คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า ไปครองด้วยจากฝีมือการแสดงอันน่าตื่นตะลึงในเรื่องนี้
ส่วนรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลก หรือภาพยนตร์เพลง ก็ไม่หักปากกาเซียน เมื่อ การทุ่มเทเพิ่มน้ำหนักของ คริสเตียน เบล เพื่อรับบทเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ดิ๊ก เชย์นี่ ในหนังเรื่อง Vice คว้ารางวัลไปได้ Vice
มาถึงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า ที่เล่นเอาผู้ชนะยังเซอร์ไพรส์ เมื่อนางเอกรุ่นใหญ่ เกลน โคลส มาแรงแซงหน้าทุกคน คว้ารางวัลไปจากหนังเรื่อง The Wife ที่เล่าเรื่องของนักเขียนหญิงที่จำใจให้สามีนำเอาผลงานเขียนของเธอไปเป็นของตัวเอง
ขณะที่ เรจินา คิง จาก If Beale Street Could Talk ก็ตัดหน้าสองตัวเต็งอย่าง เอ็มม่า สโตน และ ราเชล ไวซ์ จาก The Favourite ขึ้นรับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปแบบสวยๆ
ถึงอย่างนั้น โอลิเวีย โคลแมน จาก The Favourite ก็ช่วยกู้หน้า ด้วยการคว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือภาพยนตร์เพลง ไปครองตามเสียงเชียร์ของนักวิจารณ์
