งานนี้คงต้องพิสูจน์กันอีกยาวว่าใครผิดใครถูก เมื่อจู่ๆ ผู้กำกับรุ่นใหญ่ “วู้ดดี้ อัลเลน” วัย 83 ปี ก็ลุกมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายบริษัทอเมซอน สตูดิโอ สูงถึง 68 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2,176 ล้านบาท ฐานผิดสัญญาเพราะเชื่อข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
“วู้ดดี้” กล่าวหาว่า อเมซอนปฏิเสธที่จะนำหนังของเขา เรื่อง A Rainy Day in New York ออกฉาย ทั้งที่ถ่ายทำและตัดต่อเสร็จเรียบร้อยไปกว่าครึ่งปีแล้ว โดยให้เหตุผลแบบคลุมเครือ ก่อนจะกลับมาเจรจาใหม่ว่า จะให้เขาสร้างหนังอีก 3 เรื่อง แถมยังโบ้ยว่าที่ต้องยุติโปรเจ็คท์นี้ก็เพราะผลพวงจากการที่ “ดีแลน ฟาร์โรว์” ลูกสาวของ “วู้ดดี้” ลุกขึ้นมาฟ้องร้องกล่าวโทษพ่อตัวเองว่าล่วงละเมิดทางเพศเธอตอนเด็กๆ เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งผู้กำกับฉาวปฏิเสธว่าไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย
เอกสารฟ้องยังระบุอีกว่าเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2017 ผู้บริหารของอเมซอนได้ปรึกษาหารือกับตัวแทนของผู้กำกับรุ่นเดอะ เพื่อขอชลอการฉายหนังเรื่องนี้ออกไปก่อน เพราะช่วงนั้นกระแส #MeToo แรงมาก อีกทั้งคดีฉาวของอดีตเจ้าพ่อหนังอินดี้แห่งฮอลลีวู้ด “ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน” ซึ่งมีโปรเจ็คท์ร่วมกับอเมซอน รวมถึงอดีตผู้บริหารของอเมซอนเอง อย่าง “รอย ไพรซ์” ที่ถูกกล่าวหากรณีล่วงละเมิดทางเพศเช่นกัน ทำให้อเมซอนเสียชื่อพอแล้ว จึงขอเลื่อนฉายหนังของ “วู้ดดี้” ที่ถูกกล่าวหาในทำนองเดียวกันไปฉายในปี 2019 ซึ่งตอนนั้น “วู้ดดี้” ก็ยอมรับแต่โดยดี
งานนี้นอกจากฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา 2,176 ล้านบาทแล้ว “วู้ดดี้ อัลเลน” ยังฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ไม่เปิดเผยจำนวน และค่าธรรมเนียมทั้งหมดด้วย งานนี้ก็ต้องดูกันว่าท้ายที่สุดใครจะเป็นฝ่ายชนะ