เชน ธนา เปิดโกดังโชว์สินค้า 4.9 ล้านซองยังอยู่ครบ ยันไม่ได้โกงคู่กรณี | เผยเคยประกาศขายบ้านตั้งแต่ปี 64 แต่ขายไม่ออก

cen

อดีตนักร้องดัง เชน ธนา ร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงเจตนาที่ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกง และรับฟังข้อพิพาทระหว่างบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด และบริษัทคู่กรณี ณ คลังสินค้า ย่านบึงกุ่ม โดยก่อนหน้านี้ถูกผู้บริหารบริษัท ไทยยินตันจำกัด ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในประเทศไทย ออกมาระบุว่าถูก เชน ธนา ฉ้อโกงไม่จ่ายค่าสินค้าเกือบ 79 ล้านบาท เชน ธนา ได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันไม่ได้ฉ้อโกงบริษัทคู่กรณีแต่อย่างใด แต่เหตุที่ไม่จ่ายเงิน เนื่องจากสินค้าที่สั่งซื้อไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังไม่สามารถโฆษณาจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


เชน ธนา พร้อมยอมรับและชำระหนี้ หากศาลตัดสินแพ้คดี

โดยวันนี้(23 พ.ย.) เวลา 10.30 น. หนุ่ม เชน เดินทางมาพร้อมทีมทนายความส่วนตัวทนายวรวิศ สืบสุข และทนายอัครวุฒิ จงสุจริตธรรม พร้อมเปิดใจถึงประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเชนได้ฉ้อโกงจริงหรือไม่ ซึ่งหนุ่ม เชน ก็หอบหลักฐานการสั่งซื้อทั้งหมดของบริษัทชี้แจงต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งก็มีคำถามจากสังคมว่าทำไมสั่งซื้อเยอะ หรือทำไมต้องสั่งซื้อครั้งที่สอง หรือมีประเด็นในเรื่องของการโฆษณาในเรื่องสรรพคุณ ซึ่งหนุ่ม เชน เล่าย้อนว่าที่ตนต้องสั่งซื้อสินค้าไปทั้งหมด 4,904,202 ซองเป็นเพราะทางบริษัทคู่ค้าส่งสินค้าล่าช้า ทำให้ตนได้รับความเสียหายจากการไม่มีของส่งให้ลูกค้า รวมไปถึงตั้งแต่สั่งสินค้าล็อตแรกจนถึงล็อตล่าสุดนานร่วม 18 เดือน ทำให้สินค้าใกล้จะหมดอายุจนต้องออกมาขายราคาต่ำกว่าทุน ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และสินค้าไม่สามารถส่งคำร้องขออนุญาต อย. ได้ เนื่องจากกล่องบรรจุภัณฑ์ผิด ตนในฐานะผู้บริหารบริษัทจึงจำเป็นต้องเรียกสินค้าเก่าที่จำหน่ายไปแล้วทั่วประเทศกลับมา ทำให้บริษัทของตนเองไม่สามารถโฆษณาและจำหน่ายสินค้าได้จึงยังไม่มีเงินไปชำระค่าสินค้าดังกล่าว ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็มีการเจรจากันมาตลอด เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ จึงตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพฯใต้ ขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าคู่กรณีผิดสัญญาซื้อขายและขอยกเลิกสัญญา พร้อมขอให้คู่กรณีนำสินค้าคืนทั้งหมด คู่กรณียื่นคำร้องโต้แย้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้บริษัทของตนชำระหนี้ ซึ่งศาลพิพากษาให้คู่กรณีชนะ ตนจึงได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อขอให้ศาลพิจารณาว่าคู่กรณีโฆษณาสินค้าเกินจริงใช่หรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าตนแพ้คดี ก็พร้อมยอมรับและชำระหนี้ แต่หากคู่กรณีแพ้ก็ต้องรับคืนสินค้าทั้งหมดไป

ที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจมาเป็น 10 ปีไม่เคยมีข่าวเสียหาย และได้รับความไว้วางใจจากบริษัทคู่ค้ามาตลอดจนถึงทุกวันนี้ แค่อยากออกมาปกป้องบริษัทและพนักงานทุกคน อยากขอบคุณหลาย ๆ คนที่ยังเชื่อมั่นในตัวเอง รวมไปถึงหลาย ๆ คนที่เชื่อว่าตนคือนักสู้และจะสามารถผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากทางบริษัทยอมรับว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง เรื่องส่วนตัวก็ปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเรื่องนี้จะสู้ให้ถึงที่สุด เรารู้ตัวเองว่าเราทำถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาดอย่างไร มั่นใจว่าทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณกำลังใจทุกทิศทางที่เข้าใจในการทำงานของตน อยากจะขอความเห็นใจมองในมุมการทำงานของบริษัท 2 บริษัท และให้มองว่าเป็นสัญญาซื้อขาย ยอมรับว่าเครียดมาก ๆ แต่เข้าใจดีว่าโดนคำถามสังคมมากมาย แต่ตนก็พยายามแก้ปัญหาไปพอสมควรและสำนึกมาตลอด อย่างเรื่องบ้านก็เป็นการผิดพลาดของตน ประกาศขายบ้านตั้งแต่ปี 2564 แต่ขายไม่ออก แต่สุดท้ายก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อ วันนี้เลยอยากมาแก้ที่ต้นเหตุจริง ๆ ก่อนของเรื่องสัญญา .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


ภาพจาก chaintana

เข้าชม 161 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม