สาวงาม “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” อดีตนางงามอีกคนที่โดนบูลลี่มาตลอด ล่าสุดวันนี้(9 ก.พ. 2565) เจ้าตัวเปิดใจถึงเรื่อง ‘การถูกบูลลี่’ ตนไม่ค่อยออกมาอธิบายให้ใครฟัง จนกระทั่งเก็บความรู้สึกไปคิดมากอยู่คนเดียว คำพูดต่าง ๆ มันกดให้ฟ้าใสรู้สึกแย่จนเกือบจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า กระทั่งมีเพื่อนมาทัก ดึงสติว่าทำไมฟ้าใสเปลี่ยนไป จึงทำให้เริ่มกลับมาต่อสู้กับสิ่งที่แบกรับอยู่ได้
“ฟ้าใส” มองว่าคนมักจะมองแค่ภายนอก มองสิ่งที่เราถ่ายทอดออกมาให้เห็นแต่ลืมที่จะมองความรู้สึกจริง ๆ ของคนอื่น ถึงแม้ส่วนตัวฟ้าใสเวลาออกสื่อจะเป็นคนเฮฮา แต่เวลาอยู่คนเดียวก็มีความรู้สึกดาวน์ลงเหมือนกัน
ส่วนเรื่องคดีความที่มีการเตรียมฟ้องร้องกลุ่มคนที่เรียกฟ้าใสด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งก่อนหน้านี้ “เอส อนุสิทธิ์” ผู้จัดการส่วนตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “การเรียกคนอื่นว่า ……… มันฟ้องได้หรือเปล่าไม่รู้ ถ้าฟ้องได้พี่ เอส จะฟ้องเลยครับไม่รับกระเช้านะครับ รับเป็นคำขอโทษและเงินสดครับ เจอกันครับ ชัวร์ครับ คุณไม่ควรจิกหัวเรียกคนอื่นหยาบคายแบบนี้ครับ ไม่ได้สนิทกัน และที่สำคัญน้องมีคุณพ่อคุณแม่ไปเรียกจิกหัวเขาแบบนี้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนรู้สึกดีหรอกครับ ขนาดพี่ เอส เป็นผู้จัดการยังรู้สึกแย่เลยที่คนมาเรียกน้องเราแบบนี้ เจอกันในศาลครับ”
ซึ่งในมุมฟ้าใสเผยว่าหลังจากเกิดเรื่องคนกลุ่มนั้นได้มีการถ่ายคลิปขอโทษเรียบร้อยแล้ว แต่ฟ้าใสเห็นว่าเจตนาดูไม่น่าเชื่อถือ ไม่เต็มใจ จึงยังคงดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องกฎหมายให้ผู้ใหญ่เป็นคนคุย
เช่นเดียวกับผลงานละคร “เจ้าหญิงหลงยุค” เรื่องล่าสุดที่กำลังมีกำหนดออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ฟ้าใสเผยว่าถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย ทั้งด้านภาษา การแสดง รวมถึงฉากเข้าคู่ระหว่างพระ-นาง เพราะส่วนตัวฟ้าใสเป็นคนไม่เคยมีแฟน จึงต้องทำการบ้านเรื่องนี้อย่างหนักเลยเหมือนกัน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน