ปฏิเสธทุกข้อกล่าว “พระบอย” ยืนยันเปล่าบวชหนีคดี

หลังเจ้าหน้าที่ ปอศ.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) เข้าจับกุม นายสิทธิชัย ผาบชมพู หรือ บอย เอเอฟ 3 ระหว่างที่บวชเป็นพระที่วัดถ้ำเขาวง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ,ร่วมกันทำหรือร่วมกันใช้หรือมีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมโดยมิชอบ จากที่ได้รับแจ้งจากธนาคารว่ามีการใช้บัตรเครดิตปลอมซื้อสินค้าและบริการที่โรงแรมในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 144 รายการ เป็นเงิน 13,276,107 บาท ก่อนให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 300,000 บาท 


ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้(3 ก.ย.62) หลัง พระสิทธิชัย ธัมมธโร (บอย AF3) ได้กลับมาจำวัด ที่วัดถ้ำเขาวง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยืนยันว่าการพูดในครั้งนี้อยู่ชุดพระ จึงไม่สามารถโกหกได้เพราะจะบาปมาก ประเด็นบุกจับพระคากุฎิยอมรับมีเจ้าหน้าที่มา 2 คนจริง โดยมีสารวัตรนำหมายมาแต่พระไม่อยู่  รองเจ้าอาวาสได้รับเรื่องไว้ จากนั้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งพระว่า มีเหตุการณ์เช่นนี้ จึงได้เดินทางกลับมาที่วัด   


“ถ้าพระมีคดีจริงๆ เจอข้อหาขนาดนี้จะกลับมาทำไมและประเด็นในข่าวที่เห็นใส่ชุดขาวคือเปลี่ยนชุด ยืนยันว่าไม่ได้ขอลาสิกขา ยังเป็นพระ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมและไม่ได้ลาสิกขาเพื่อรับโทษ แต่อย่างใด ประเด็นหนีมาบวชหนีคดี การบวชในปัจจุบันจะต้องเช็คประวัติทุกอย่างก่อนว่ามีความผิดอะไรไหม  ถ้ามีคดีจริงๆพระจะไม่สามารถบวชได้เลย”


พระ ยังกล่าวต่อว่า ได้บวชมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน(2562) ยืนยันไม่ได้หนีคดี หากคนจีนที่กล่าวหาเห็นสัมภาษณ์นี้ให้มาหาพระได้เลบ คดีนี้เกิดผลกระทบกับพระและคนใกล้ชิด ส่วนรูปคดี  ให้เป็นไปตามกฏหมาย และให้เป็นหน้าที่ของทนาย   

ส่วนถามว่าบวชเพราะอะไร พระบอย เผยว่าเป็นเพราะตั้งใจอยากจะบวชจริงๆ เป็นการบวชครั้งที่ 3 และต้องการจะบวชนานที่สุดและจำพรรษาให้โยมพ่อ ซึ่งป่วยมากนอนติดเตียงกล้ามเนื้ออ่อนแรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงห่วงความรู้สึกโยมพ่อกับโยมแม่ โดยทุกคนต่างให้กำลังใจ 

“โยมพ่อบอกว่าพ่อรออยู่เด้อ ตอนนี้อยากชี้แจงอย่างเดียวว่ายังอยู่ปกติไม่ได้ลาสิกขาและไม่รู้จักกลุ่มคนจีนเลย โดยขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาให้เป็นไปตามกฎหมายแล้วกัน การบวชครั้งนี้คิดว่าจะอยู่รับกฐินก่อนที่จะลาสิกขาฝากไปถึงนักข่าวหลายหลายสำนักฝากขอโทษที่ไม่ได้ให้ข่าวในช่วงแรกเพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่สงฆ์ต้องสำรวมและสงบ ขอให้ทุกคนใช้สติในการรับข่าว”

ในขณะที่พระเมธีสุตาภรณ์ (เจ้าคุณเหมือน) เจ้าอาวาสวัดคีรีวันต์ เจ้าคณะอำเภอปากช่อง กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ถ้ายังไม่กล่าวคำลาขาดจากการเป็นพระ ถึงแม้จะไม่ได้ห่มผ้าเหลือง ก็ถือว่ายังไม่ขาดจากการเป็นพระ นอกจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น ฆ่าคนตาย จะขาดจากการเป็นพระทันที 

เข้าชม 57 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม