หลังจากต้องหยุดงานเพื่อไปรักษาตัวด้วยอาการป่วยต่อมไทรอยด์ผิดปกติ จนส่งผลให้ใบหน้าของนักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว “หญิงลี ศรีจุมพล” บวมเป่งจนต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อดูดไขมันออกจากใบหน้าถึง 4 ครั้ง ล่าสุดนักร้องลูกทุ่งสาวคนดัง ได้เปิดบ้านและสำนักงาน ย่านสุขาภิบาล 5 แถลงข่าวพร้อมคุณแม่บุญล้อม ศรีจุมพล ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตากับชีวิตที่เรียกว่าเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุด โดยเผยว่า ชีวิตของตนเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ เพราะระหว่างที่พักรักษาตัว ราว 5-6 เดือน ต้องจมอยู่กับความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับเรื่องใบหน้าที่บวม และต้องยอมตัดขาดจากโลกโซเชียลไปโดยปริยาย ด้วยความกลัวคำวิจารณ์ ก่อนที่จะสลัดความกังวลนั้นออก เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์ต่างๆ ด้วยการโพสต์รูปใบหน้าที่บวมลง นสตาแกรมให้โลกได้เห็นถึงอาการเจ็บป่วย ซึ่งได้รับทั้งกำลังใจที่ดี และคำวิจารณ์ที่รับไม่ได้ว่าเกิดจากพิษศัลยกรรม
หญิงลี ยังอัพเดทถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่คุณแม่บุญล้อมต้องประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะชนต่อหน้าต่อตาเมื่อหลายเดือนก่อน ว่า ตอนนี้อาการของคุณแม่กลับมาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งถือเป็นอะไรที่ชื่นใจและสุขใจมากที่สุดแล้ว เช่นเดียวกับอาการของตนที่ตอนนี้พร้อมที่จะกลับมารับงาน งานโชว์อีกครั้งอย่างเต็มที่ ทั้งเสียงร้อง ท่าเต้น และ โชว์ต่างๆ บนเวที รับประกันว่า ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ขอยืนยันให้เจ้าภาพงานต่างๆสบายใจได้
นอกจากนี้ หญิงลี ยังเผยถึง อาคารสำนักงานในย่านสุขาภิบาล 5 ที่ลงทุนซื้อตึก ราคาสูงถึงเกือบ 10 ล้านสร้างเป็นที่อยู่อาศัยและทำธุรกิจฟิตเนส โดยลงทุนซื้อเครื่องออกกำลังกายกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นการการสร้างและวางอนาคตให้กับชีวิตตัวเอง
ทั้งนี้ หญิงลี ยังปฏิเสธด้วยว่า หลายคนอาจจะมองว่าหญิงลีมีทรัพย์สินเป็นร้อยล้าน แต่ความจริงแล้วตนมีทรัพย์สินแค่ครึ่งหนึ่งของในข่าวเท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่เงินสด รวมไปถึงทรัพย์สินอื่นๆด้วย ฉะนั้นหากชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นรนหากันต่อไป
ท้ายสุด เธอยังบอกว่า อยากจะให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้หรือคนป่วยว่าชีวิตยังมีวันข้างหน้า ต้องลุกขึ้นมาสู้กับมันให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีวิตต้องดำเนินต่อไปและกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดกับการต่อสู้ในเรื่องต่างๆ-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
