“โตโน่” ว่ายข้ามโขง กายไม่พร้อมแต่ใจเกินร้อย เชื่อยิ่งเจ็บยิ่งแข็งแกร่ง เล่าเหตุผลไม่ซ้อมแม่น้ำจริง

หนุ่มรักษ์โลก “โตโน่ ภาคิน” ใช้ร่างกายเป็นเดิมพันอีกครั้ง เพื่อระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์มอบ 2 โรงพยาบาลริมฝั่งโขง คือโรงพยาบาลนครพนมของไทย และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ผ่านโครงการ “One Man And The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้” ที่ “โตโน่” จะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงตัวเปล่า ไปกลับระหว่าง 2 ประเทศ “ไทย- สปป. ลาว” ระยะทางจากองค์พญาศรีสัตนาคราช จังหวัดนครพนม ไป ฝั่งสปป.ลาว คือวัดพระธาตุศรีโคตรบอง (โคด – ตะ- บอง) รวมระยะ 15 กิโลเมตร ในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมนี้

“โตโน่” ย้อนจุดเริ่มต้นว่าเมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้ไปทำงานที่นครพนม แล้วได้พูดคุยกับชาวบ้านจนทราบถึงการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนครพนม จึงคิดทำโครงการนี้ขึ้นมา เพราะว่ายน้ำคือสิ่งที่ตนถนัด ทั้งตนรู้สึกว่าโรงพยาบาลกับทะเลหรือแม่น้ำมีความใกล้เคียงกัน ทะเลทุกวันนี้ก็เหมือนเป็นที่รองรับสิ่งปฏิกูล คนยังตระหนักเรื่องนี้น้อยมาก วันนึงถ้าทะเลรับไม่ไหว ระบบนิเวศก็พัง เหมือนกับโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วย เมื่อวันนึงโรงพยาบาลรับไม่ไหว ตัวเราเองก็พังเช่นกัน จุดประสงค์การว่ายน้ำครั้งนี้จึงไม่เพียงช่วยแบ่งเบาคุณหมอคุณพยาบาล แต่อยากจะส่งสารตรงนี้ไปให้ถึงเราทุกคน ให้ช่วยกันตระหนักดูแลรักษาระบบนิเวศทางน้ำทางแม่น้ำทางทะเลด้วย

ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาเพียง 20 วัน “โตโน่” ก็ยอมรับว่ามีเวลาซ้อมน้อยมาก ทั้งสัปดาห์ก่อนยังเจอพิษไข้หวัดใหญ่เล่นงานจนต้องแอทมิตโรงพยาบาล 6 วัน แพทย์สั่งงดลงน้ำเด็ดขาด ทำให้เสียเวลาซ้อมไปอีก ซึ่งแม้ตอนนี้ร่างกายจะฟื้นตัวได้เพียง 70% แต่ใจตนเกินร้อยอยู่แล้ว หนุ่ม “โตโน่” ยังบอกขำ ๆ เชื่อตัวเองเป็นชาวไซย่า จากการ์ตูนดราก้อนบอล ที่การเจอเรื่องบาดเจ็บจะทำให้กลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

การซ้อม “โตโน่” ไม่ขอซ้อมกับแม่น้ำโขงจริง เพราะถือเคล็ด แต่จะซ้อมในสระว่ายน้ำและบึงที่มีกระแสน้ำใกล้เคียงแม่น้ำโขงมากที่สุด พร้อมทั้งศึกษาและเตรียมแผนรับมือปัญหาน้ำผุด น้ำวน รวมถึงหลุมบ่อใต้น้ำ ที่จะต้องเจอในแม่น้ำโขงให้ดีที่สุดด้วย “โตโน่” ยอมรับครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ท้าทาย แรกเริ่มก็เจอเสียงทัดทานจากครอบครัวโดยเฉพาะคุณแม่และหวานใจสาว “ณิชา” ด้วยความเป็นห่วง แต่ทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่มีค่ากว่าตัวของตนคนเดียว ส่วนคำวิจารณ์ด้านลบ “โตโน่” ย้ำชัดไม่เคยเข้ามากระทบจิตใจ สิ่งเดียวกระทบใจตนจนลุกมาทำสิ่งนี้ นั่นคือภาพการรอการช่วยชีวิตของผู้ป่วยทุก ๆ คน รวมถึงหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคนที่เหน็ดเหนื่อย ทุ่มกำลังกายกำลังใจเพื่อช่วยแต่ละชีวิต.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 382 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม