เรื่องเกิดเกือบปี ขอโทษสักคำไม่มี “แก้มบุ๋ม” ลั่นเอาเรื่องคนหมิ่นทารุณสัตว์ให้ถึงที่สุด

ยืดเยื้อกันมานานเกือบปี สำหรับกรณีที่นางร้ายสาว “แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย” แจ้งความดำเนินกับบุคคลที่โพสต์ภาพพร้อมข้อความกล่าวหาว่าคาเฟ่สัตว์ของสาวแก้มบุ๋มทารุณกรรมสัตว์ ทิ้งขว้าง ไม่ใส่ใจดูแล ปล่อยให้เป็นโรคผิวหนัง เเละไม่ให้อาหารจนหมาต้องกินอุจจาระตัวเอง ในข้อหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เเละหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท เมื่อเดือน มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ล่าสุดนักแสดงสาวได้อัปเดตความคืบหน้ากรณีดังกล่าวผ่านสัมภาษณ์วิดีโอคอลกับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน
.
โดย “แก้มบุ๋ม” ระบุว่า “เดือน มิ.ย.2564 ที่จะถึงนี้ ศาลอาญามีนบุรีจะอ่านนำคำพิพากษา มันถึงสุดแล้วค่ะ ไกล่เกลี่ยเจรจากันมาหลายรอบแต่ไม่ลงตัว เราก็เอาให้ถึงที่สุด บุ๋มเจอคู่กรณีตอนขึ้นศาลตลอด แต่ไม่มีการพูดคุยนอกรอบ ไม่มีการเจรจาส่วนตัว ไม่มีคำที่รู้สึกว่าเขารู้สึกผิดในสิ่งที่เขาพูดไปทำให้เราเสียหาย ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีคำชี้แจงที่มาจากปากเขาจริงๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ เลยรู้สึกว่าแล้วทำไมเราต้องยอม เราเสียหาย เราเป็นคนรักสัตว์ ชอบไปเดินงานต่าง ๆ ที่มีสัตว์ แต่ต้องมาเจอแบบนี้ การที่เราออกไปตามงานสัตว์ต่าง ๆ เราไม่รู้ว่าคนที่อ่านข้อความพวกนั้นแล้วเชื่อไปแล้วจะมีใครเข้าใจเราจริง ๆ หรือเปล่า ถึงผลตัดสินออกมาเราชนะ ได้เงินมาสักก้อนหนึ่ง ต่อให้เราเอาเงินนั้นไปทำบุญ ก็ไม่ได้แปลว่าคนที่เข้าใจเราผิดไปแล้วเขาจะมองเราดีขึ้น มีแต่เสียกับเสีย บุ๋มเรียกค่าเสียหายไป 1 ล้านบาท ถ้าชนะคดี ตั้งใจเอาเงินไปทำบุญให้สัตว์ตามมูลนิธิต่าง ๆ ไม่เอามาใช้ส่วนตัวเลยค่ะ”
.
นางร้ายสาวกล่าวต่อว่า “เรื่องนี้เป็นบทเรียนเดิม ๆ กับการที่เราจะใช้โซเชียล ต้องตั้งสติ ต้องคิดและวิเคราะห์ก่อนที่คุณจะพิมพ์อะไรทุกครั้ง ไม่ใช่อยากจะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ ส่วนร้านคาเฟ่น้องหมาน้องแมวตอนนี้ก็กระทบแน่นอน เพราะปิดบริการ ไม่ให้คนเข้ามาได้ แต่น้องๆ ก็ต้องยังอยู่ที่นั่น เขาก็มีชีวิตเหมือนเรา เดือนหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักแสน แต่เราก็ทำให้ดีที่สุด จริง ๆ มีคนส่งข้อความและโทรศัพท์มาขอเงิน ขอความช่วยเหลือกับบุ๋มตลอด ก็มีให้ความช่วยเหลือไปบ้าง แต่ชอบเจอประเภทที่โทรมาขอแล้วยังโทรมาขออีก ขอเรื่อย ๆ เจ้าเดิม จนรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว เลยไม่ค่อยชอบการช่วยเหลือในลักษณะนี้ เน้นไปบริจาคตามที่ต่าง ๆ ดีกว่า”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 463 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม