วันที่ 16 สิงหาคม 2018 คือวันที่วงการเพลงโลกต้องสูญเสียราชินีเพลงโซล “อารีธา แฟรงคลิน” ไปตลอดกาล จากโรคมะเร็งตับอ่อน ด้วยวัย 76 ปี เหลือไว้เพียงผลงานเพลงอมตะ ทั้ง Respect Chain of Fools และ I Say a Little Player ที่จะยังคงครองใจแฟนๆ เรื่อยไป พิสูจน์ได้จากยอดขายงานเพลงมากกว่า 100 ล้านชุดทั่วโลก อีกทั้ง ความสำเร็จของ อารีธา ยังทำให้ผู้คนยอมรับในความสามารถและเคารพสิทธิของผู้หญิงผิวสีมากขึ้นอีกด้วย
มะเร็งร้ายก็ยังคร่าชีวิต “โจ แจ็คสัน” ในวัย 89 ปี ซึ่งจากไปอย่างสงบท่ามกลางคนในครอบครัวที่อยู่เคียงข้างจนวินาทีสุดท้าย แม้ โจ จะเคยตกเป็นข่าวฉาวว่าบีบบังคับให้ลูกก้าวสู่วงการบันเทิงถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาคืออยู่เบื้องหลังความสำเร็จวงดนตรีระดับตำนาน Jackson 5 ทั้งยังผลักดันให้ ไมเคิล แจ็คสัน กลายเป็นราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็คสัน ผู้เป็นตำนานอีกด้วยค่ะ
ยาเสพติดหรือเหล้า ไม่เคยส่งผลดีกับใคร และการจากไปอย่างกะทันหันของ ร็อคเกอร์สาว Dolores O’Riordan แห่งวง Cranberries เมื่อเดือนมกราคม น่าจะยืนยันเรื่องนี้ได้ดี เมื่อเธอเสียชีวิตจากการจมน้ำ เพราะฤทธิเหล้า ทำให้แผนการทัวร์คอนเสิร์ตของวงไม่มีโอกาสได้เป็นจริง
เช่นเดียวกับแรปเปอร์หนุ่มมาแรง Mac Miller อดีตคนรักของ “อเรียนา แกรนเด” ที่เสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาดในบ้านพักของตัวเองที่ลอสแองเจลิส ด้วยวัยเพียง 26 ปีเท่านั้น ทั้งที่อนาคตของเขายังไปได้อีกไกล
ที่ช็อคไม่แพ้กัน คือ การตายของแรปเปอร์ XXXTentation ที่ต้องมาจบชีวิตเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ด้วยฝีมือของแก๊งหัวขโมย ที่ตั้งใจมาปล้นเขาหน้าร้านขายมอเตอร์ไซค์ในรัฐฟลอริด้า แต่เพราะ XXXTentation ขัดขืนก็เลยถูกยิงเสียชีวิตในรถของตัวเอง
และเหมือนวันที่ 18 มิถุนายน จะเป็นวันอาถรรพ์ เพราะหลังจากเกิดเหตุกับ XXXTentation เพียงไม่กี่ชั่วโมง แรปเปอร์ Jimmy Wopo ก็ถูกมือปืนขับรถมาจ่อยิง ก่อนเขาจะมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมือง Pittburgh ด้วยวัยแค่ 21 ปีเท่านั้น
แต่ที่ทำให้หลายคนเศร้าหนัก หนีไม่พ้น การตายของดีเจหนุ่มชาวสวีเดน Avicii เจ้าของเพลงฮิต Wake me Up เมื่อเดือนกันยานที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะไม่มีการระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่คำไว้อาลัยของครอบครัวก็เหมือนบอกใบ้เป็นนัยๆว่า เขาตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง เพราะไม่สามารถจัดการกับความคิดอันแสนเศร้าได้อีกต่อไป
ไม่แค่ Avicii ที่ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง เพราะไม่สามารถทนกับความเศร้าในใจได้ เพราะดีไซเนอร์หญิงแถวหน้า Kate Spade ก็ทำให้คนทั้งโลกต้องช็อค เมื่อเธอผูกคอตายที่ อพาร์ตเมนต์ในนิวยอร์ก พร้อมทิ้งจดหมายลาตายไว้ให้ลูกสาวเพียงคนเดียว ก่อนที่สามี Andy Spade จะออกมาเปิดเผยว่า ภรรยาผู้ล่วงลับ ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้ามาตลอด
วงการแฟชั่นยังสูญเสีย Hubert De Givenchy (ยูแบ ดี จียองชี่) ผู้ก่อตั้งห้องเสื้อแบรนด์ดัง Givenchy ที่จากไปด้วยวัย 91 ปี โดยผลงานการออกแบบที่สร้างชื่อให้เขา คือ เสื้อผ้าที่นางเอกผู้ล่วงลับ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ในหนังดังอมตะ Breakfast at Tiffany’s
ส่วนวงการภาพยนตร์โลก ก็ต้องเศร้ารับข่าวร้าย เมื่อผู้กำกับชาวอิตาเลียนมือรางวัล แบร์นาร์โด แบร์โตลุคชี่ จากไปด้วยวัย 77 ปี ซึ่งผลงานการกำกับของเขาที่ยังเป็นจดจำของคอหนัง หนีไม่พ้น Last Tango in Paris และ The Last Emperor ซึ่ง 9 รางวัลออสการ์เมื่อปี 1980 ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นหนังตะวันตกเรื่องแรกที่ได้รับอนุญาติจากรัฐบาลแดนมังกรให้ถ่ายทำในพระราชวังต้องห้ามด้วย
คอหนังยุค 70 และ 80 ต้องใจหาย เพราะพระเอกซุปตาร์ในยุคนั้น เบิร์ธ เรย์โนลด์ส มาจากไปในวัย 82 ปี ซึ่งช่วงรุ่งเรืองในอาชีพนักแสดง เบิร์ธ ถือเป็นนักแสดงทำเงินของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่เรียกว่าชื่อของเขาสามารถการันตีได้ว่าหนังจะเปรี้ยง ทุกวันนี้ หนังที่เขาแสดงทั้ง Deliverance The Longest Yard และ Smokey and the Bandit ก็ยังอยู่ในใจคอหนังเรื่อยมา
ส่วนนักแสดงร่างเล็ก Verne Troyer เจ้าของความสูง 81 เซ็นติเมตร ชีวิตจริงก็ไม่ได้ตลกเหมือนบทบาท มินิมี ที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำจากหนังตลก Austin Power เพราะเขามีอาการซึมเศร้า ทั้งยังมีอาการตัดเหล้า จนพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง และในที่สุด สิ่งที่ใครๆ ไม่อยากให้เกิด ก็เป็นจริง เมื่อเขาตัดสินใจลาโลกไป เมื่อวันที่ 21 เมษายน ด้วยวัยเพียงแค่ 49 ปีเท่านั้น
ตำนานเจ้าพ่อแห่งจักรวาลมาร์เวล Stan Lee ผู้ให้กำเนิดซูเปอร์ฮีโร่ในตำนาน ทั้ง Spider-Man , Iron Man และ Hulk ที่ลาโลกด้วยวัย 95 ปี ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของแฟนหนัง แฟนการ์ตูน ไปจนถึงนักแสดงในหนังแห่งจักรวาลมาร์เวล ที่ต่างยกย่องให้ สแตน ลี เป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริง เพราะเขาคือคนที่สะท้อนให้เห็นว่าใครๆ ก็เป็นฮีโร่ได้ และความแตกต่างไม่ได้หมายความว่าต้องแปลกแยกจากสังคมด้วย
