ดร.การดี เล่าถึงความสัมพันธ์ของเกาหลีใต้กับกลุ่มประเทศอาเซียน ว่า เกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับอาเซียนอย่างมาก จะเห็นได้จากการตั้ง ASEAN-KOREA Foundation และหน่วยงานที่ดูแลความสัมพันธ์โดยเฉพาะ แต่หากดูจริงๆ ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับเกาหลีใต้ มีมาตั้งแต่อดีตแล้ว เริ่มตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นคู่เจรจากันเฉพาะด้าน กระทั่งปี 2557 นายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางไปเกาหลีใต้ พูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับอาเซียน เน้นเรื่องความเชื่อมั่น ความเชื่อใจ นำมาซึ่งความสุขของคนในภูมิภาค
สำหรับความสัมพันธ์ที่มองในรูป Community ดร.การดี กล่าวว่า จะมีครบทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และวัฒนธรรม แต่จะเน้นหนักที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เมื่อดูตัวเลขแล้วน่าสนใจมาก ย้อนดูในเรื่องของมูลค่าการค้า เมื่อปี 2556 ประมาณ 135,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 5.3% ซึ่งอาเซียนก็ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของเกาหลีใต้ รองจาก จีน เป็น 12.6% ของการค้าระหว่างประเทศกับเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 6 ของอาเซียน
“เกาหลีใต้ ได้ตั้งศูนย์อาเซียนเกาหลี ที่กรุงโซล เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้มีการสนับสนุนให้จัดทำแผนปฏิบัติการอาเซียนเกาหลีใต้ฉบับใหม่ 2016-2020 ครอบคลุมมากขึ้นกับการร่วมมือต่างๆ ในภูมิภาคทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และมีการตั้งเป้าทางการค้าเพิ่มขึ้นในปี 2558 เป็น 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และภายในปี 2563 จะพยายามผลักดันให้เพิ่มเป็น 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”
ดร.การดี ยังได้แนะนำหนังสือ The New Korea ที่จะทำให้เข้าใจความคิดและการวางยุทธศาสตร์ต่างๆของเกาหลีใต้มากขึ้น รวมถึงยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับอาเซียน โดยหากมองย้อนกลับไปยุคก่อน สินค้ายอดนิยมของเกาหลีใต้จะเป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรือขนส่ง หรือรถยนต์ ใช้ทรัพยากรและแรงงานที่ยังถูกอยู่ ซึ่งในยุคอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้เรียกตัวเองว่า Korea 1.0 คือในยุคที่ใช้สินค้าขนาดใหญ่ คนเยอะๆ ค่าจ้างแรงงานถูกๆ ต่อมาในปี 1997 เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ก็ได้ปรับเปลี่ยนเป็น Korea 2.0 มีการปรับวิธีการคิด ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิง Entertainment Animation เป็นเรื่องของการส่งออกทางด้านวัฒนธรรมมากขึ้น กลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและทำความรู้จักกับประเทศเกาหลีใต้ในปัจจุบัน
ดร.การดี เล่าต่อไปอีกว่า ถ้าใครติดตามวิธีคิดของชาวเกาหลีใต้ในยุค Korea 1.0-2.0 จะคอยปรับเปลี่ยนเทียบกับประเทศญี่ปุ่น เช่น เมื่อญี่ปุ่นมีโซนี่ เกาหลีใต้ก็มีซัมซุง แต่เมื่อเป็น Korea 3.0 ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเทียบตัวเองกับสหรัฐอเมริกา เช่น สหรัฐมีแอปเปิ้ล เกาหลีใต้ก็มีซัมซุง ซึ่งกำลังจะบอกว่า เมื่อเข้าสู่ Korea 3.0 เน้นไปที่ Advance Technology มากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย มีการปรับตัวเทียบความสำคัญๆ กับสหรัฐ แต่ตัวเลขรายได้ต่อหัวต่อปี ก็สูงขึ้นเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยนกลางๆ ของสหภาพยุโรปแม้จะยังห่างจากญี่ปุ่นอยู่มาก แต่เขาก็ไม่เทียบตัวเองกับญี่ปุ่นแล้ว แต่ไปเทียบกับสหรัฐแทน เพราะเชื่อว่า มีความพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยี ส่วนเรื่องของอุตสาหกรรม ผู้บริหารในเกาหลีก็มองว่าหากตามรอยประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียวก็อาจจะกลายเป็นผู้ตามไปตลอด จึงต้องผสมผสานกันไป จึงทำให้เข้าใจยุทธศาสตร์ในการรุกหนักในอาเซียน
ดร.การดี อธิบายต่ออีกว่า เกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับเวียดนาม โดยเข้าไปส่งเสริมอุตสาหกรรมเรื่องของเทคโนโลยี ทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศผู้ผลิตอันดับที่ 2 รองจากจีนเท่านั้น ขณะที่ประเทศเมียนมาร์ นั้น เกาหลีใต้ให้ความสนใจในการลงทุนด้านการเกษตร รวมถึงโครงการพัฒนาเมืองและชนบท ส่วนประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเกาหลีใต้ พูดคุยเรื่องการค้าตามแนวชายแดนที่เขตติดต่อหลายประเทศในอาเซียน และการสนับสนุนโครงการไฮสปีดเรียลเวย์สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์
อริสรา ประดิษฐสุวรรณ
