หลังจากไกล่เกลี่ย กับคู่กรณี ปู -มัณฑนา หิมะทองคำ กรณีเช็คเด้งไม่สำเร็จ นางแบบคนดัง ลูกหมี -รัศมี ทองสิริไพศรี ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านการไลฟ์สดในเพจ ทนายคลายทุกข์ ของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมด้วย ลิลลี่ เหงียน และคุณอ้อมที่เป็นเจ้าหนี้อีกราย โดยลูกหมีได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้การไกล่เกลี่ยคราวก่อนไม่สำเร็จว่า
“วันไกล่เกลี่ย เขาให้พี่ปูกับลูกหมีคุยกันพี่หาญส์ก็อยู่ด้วย พี่หาญส์ก็พูดบอกว่า คุณพูดมาสิ ให้เข้าหูผม ให้ผมพอใจผมถึงจะโอเค ลูกหมีก็บอกว่า ขอโทษค่ะ แล้วลูกหมีจะไปออกรายการที่เขาพอใจให้ แต่เราไม่ได้บอกว่ากี่รายการ พอพูดไปเค้าก็ไม่ยอม ๆ มันไม่เพียงพอ มันอย่างนั้น มันอย่างนี้ คุยกันนานมาก จนรู้สึกเหนื่อย คือถ้าไม่อยากไกล่เกลี่ยก็ไม่เป็นไรค่ะ ประมาณนั้น
คือมันไม่ต้องเคลียร์อะไรหรอกค่ะ สังคมตัดสินให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าพี่ปูพี่หาญจะไม่พอใจลูกหมีก็เกิดจากเพราะพี่เอาเงินไปแล้ว นัดคืนเงินตั้งแต่ 1 ม.ค. มันกี่เดือนในการที่รอเงิน แล้วบอกว่าเดี๋ยวก่อน ๆ สภาพจิตใจมันแย่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่แย่ เครียดเหมือนกัน แต่แค่ไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แล้วก็ถ้าฟ้องมาก็ฟ้องกลับค่ะ!
อย่างเงินก็ไม่ตรง วันนั้นถ้าจะหักดอกที่เกินอะไรลูกหมีก็ยอมแล้ว เหลือ 1.8 ล้าน ใช่มั้ยคะ? แล้วเขามาบอก 1.4 ล้าน ทีมไกล่เกลี่ยก็มาบอกลูกหมีเอาไปเถอะ ๆ ลูกหมีก็คิดว่า 1.4 ล้านก็ได้จะได้จบ ๆ ไป รำคาญกับคนอย่างนี้
คือเช็คมัน 2 ล้าน หลังวันที่ 2 มี.ค. พี่ปูโอนกลับให้ลูกหมี 5 ครั้ง ยอดก็คือ 2.2 แสน อันนี้นับแบบคร่าว ๆ ทีมไกล่เกลี่ยเขาบอกอันนี้มีดอกเบี้ยเกินหักลบแล้วเหลือ 1.8 ล้าน ลูกหมีก็โอเค ทางทีมไกลเกลี่ยไปคุยกับพี่ปูพี่หาญส์เขาก็บอกว่าเขาจ่ายมาหมดแล้ว ทั้งหมด 1.4 ล้าน เราก็งง รำคาญที่ต้องคุยแบบนี้ ก็เลยบอกถ้าแฟร์ๆ เราก็อยากได้ 1.6 ล้าน เขาก็ไปคุยอีก เขาก็ยังบอกแค่ 1.4 ล้าน เราก็ยอมอีกจะได้จบ จะได้ทำมาหากิน ใช้ชีวิตอย่างสบาย เขาก็ยังตั้งท่าว่า ลูกหมีไปหมิ่นเขา โดยการออกรายการ ลูกหมีก็พูด 2 ครั้งว่า พี่คะเหตุเริ่มต้นมันคือพี่ไม่คือเงินหมีค่ะ พูดแค่นี้ แล้วเขาก็พูดๆ ลูกหมีก็หันไปหาทีมไกล่เกลี่ยว่า 1.4 ล้าน ค่ะ คือจะได้จบเข้าเรื่อง ก็ไม่เข้าเรื่องสักทีมันเลยเป็นแบบนี้
ก็เลยบอกว่าถ้าไปวันที่ 16 ก.ค. นี้ ก็เลยต้องเริ่มใหม่ที่เช็ค 2 ล้าน แต่ลูกหมีไม่ไปก็ได้ แจ้งความเลยก็ได้ ก็กำลังคุยกับ อ.เดชาอยู่ เพราะว่าถ้าคุยแล้ว เราเมตตาสุด ๆ อดทนอย่างยาวนาน ถ้าพี่เขายังทำแบบนี้อยู่ ลูกหมีก็ไปต่อได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ลูกหมีถอยสุดทางคือ กลับไปตั้งต้นใหม่ที่ 2 ล้าน แล้วไปเจรจาไกล่เกลี่ยใหม่ ให้สุดได้แค่ตรงนี้ ส่วนเรื่องจะหมิ่นหรือไม่หมิ่น จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ก็ได้หมดทุกรูปแบบ เราทำทุกวิถีทางแล้ว
ลูกหมีก็นิสัยเหมือนลิลลี่เมตตาแล้ว รู้ว่าเค้าจะเอาเงินไปทำอะไรแล้วอ้างคำว่า เพื่อนตลอด แล้วเค้าก็ให้ดอกเบี้ยอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะเค้านำเสนอเอง ไม่เป็นไรคะก็สู้กันในชั้นศาล ยินดีค่ะ
เขาเลื่อนมาตลอด ก.พ. ลูกหมีก็บอกไปแล้วว่าพี่ปูไม่กลัวลูกหมีแถลงข่าวเหรอ เลื่อนมาเป็นสิบๆ ครั้งแล้วมันเป็นอย่างนี้จริงๆ มันเลยเป็นเหตุที่ลูกหมีเคยพูดตอนแถลงข่าว ว่า พี่เขาเจอใครก็ยืม เพราะหมีมีข้อมูลมาแล้ว เท่าที่ทราบจากคนอื่น เขาเจอใครปุ๊บก็ยืม ลักษณะพฤติกรรมแบบนี้เลยต้องพูดให้สังคมระวังตัว ว่าการเจอคนครั้งแรกแล้วยืมเงินมันดูแปลกๆ นะ เราเลยต้องพูด”
ส่วนประเด็นที่ ปู มัณฑนา ได้พูดพาดพิง ลิลลี่ เหงียน ว่าพามิจฉาชีพ หรือพี่ ก. เข้ามาจนทำให้สูญเสียเงิน 5 แสน นั้น ลูกหมีได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า
“หลังที่ลูกหมีแถลงข่าวแล้ว ก. ก็โทรมาหาลูกหมี เล่าเรื่องที่เขาเข้าไปคุยกับพี่ปูว่าเขาอยากจะช่วยเรื่องขายที่ดิน แต่ทาง ก. ให้พี่ปูได้แค่ 3 ล้าน แล้วตอนแรกพี่ปูจะโอเคที่ 3 ล้าน แต่ 3 ล้านนี้ ก. จะโอนให้ลูกหมี 2 ล้านจะได้จบ ส่วนต่าง 1 ล้านจะโอนให้เลย ในแชตไลน์คือพี่ปูนัดเขาแล้ว เที่ยงไม่มา รอจนถึง 6 โมงเย็นก็ไม่มา ในเคสนี้ลูกหมีไม่ได้อะไรแค่รับฟัง แต่สิ่งที่ลูกหมีต้องการจะพูดก็คือ พี่ปูไม่ได้ความช่วยเหลือแล้วปฏิเสธเขา ก็เลื่อนเขาไป พี่ปูจะเป็นคนที่เลื่อนๆๆ ตลอด อย่างเคสลูกหมีที่มีเรื่องแล้วบอกว่าลูกหมีคิดดอกเบี้ยเขามีแต่เขานำเสนอให้ตลอด เพราะเราไม่ใช่อาชีพนี้ แล้วการที่พี่ปูไปออกรายการ ด้อยค่าลูกหมีอย่างนั้นอย่างนี้ หรือจะว่าลูกหมีไม่มีงาน ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็หมิ่นประมาทเหมือนกัน และสิ่งที่พี่ปูพูดหลักฐานก็มี การกระทำของพี่พี่ต้องรู้อยู่แก่ใจ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
