ทำเอาแม่ยกแฟนลิเกช็อกไปตาม ๆ กัน หลัง นุ่น เนตรชนก หรือ นุ่น ดำดง ไลฟ์สดผ่าน Tiktok ทั้งน้ำตาประกาศลาออกจากคณะลิเก ศรราม น้ำเพชร เพราะรู้สึกอึดอัด อยู่ไปก็ไม่มีความสุขอีก เพราะคนในวงไม่มีใครคุยด้วย แม้แต่หัวหน้าวง ทำงานด้วยกันยาก แม้พยายามปรับมาหลายเดือน
โดย นุ่น ดำดง เผยว่า “ทุกอย่างมันเปลี่ยนจากช่วงแรกเยอะเลยกับการแสดง หนูเป็นคนเล่นเองยังรู้สึกได้เลย ถ้าไม่ได้รู้สึกคงไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปถามเขาตรง ๆ แบบนั้น ทั้งโรงลิเกมันไม่ได้คุยจอย จากปกติที่เคยคุยจอ แต่อันนี้คือหัวหน้าเลย เพราะว่าเราก็เล่นกับเขาหน้าเวที ตรงไหนที่มันอึดอัด รู้สึกว่าไม่ใช่ความสุขแล้วก็ถอยออกมา หนูไม่ได้ทิ้งลิเก พยายามปรับความเข้าใจทุกอย่างแล้ว หนูพยายามแก้และพยายามทำความเข้าใจในทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น แต่จะอยู่ยังไง อยู่ไปก็ไม่มีใครคุยด้วย หนูจะทำงานยังไง ถ้ามันไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไร ถ้าตรงไหนมันรู้สึกแบบนี้ ก็ทำงานไปด้วยกันได้ยาก ทำงานต่อกันได้ยากกับหัวหน้าด้วย ไม่ใช่แค่ลูกโรงด้วยกัน ทั้งที่หนูก็บอกตรง ๆ ว่าทำงานลำบาก แต่เขาก็บอกหลัก ๆ คือเรื่องนี้ที่ไม่โอเค หนูก็โอเคไม่เป็นไร หนูมาบอกในส่วนของหนูว่า วันนี้หนูก็ถอยออกมา หนูไม่รู้ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หนูก็ยังมีพ่อแม่พี่น้อง หนูเชื่อว่าพ่อแม่ไม่อยากเห็นหนูร้องไห้ไปตลอด เมื่อไปที่ทำงานแล้วไม่มีใครคุยด้วย หนูยังไม่ได้ไปอยู่กับใครแน่นอน หนูยังอยู่กับแม่ 2 คน แม่ที่เป็นคนช่วยคิด หนูขออยู่เพื่อตั้งหลักก่อน ขอบคุณพี่ ๆ ที่เข้ามาฟัง เข้าใจขอบคุณมาก ๆ หนูยังเป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะของพี่ ๆ เหมือนเดิม ขอบคุณทุกคน” ก่อนหน้านี้ นุ่น ได้มีการเข้าไปคุยกับคนใกล้ชิดของหัวหน้า แต่ก็ไม่มีใครคุย ด้วยความคาใจเลยไปถามหัวหน้าคณะเองว่าผิดตรงไหน จะได้แก้ไขถูก คำตอบที่ได้ อีกฝั่งก็ยอมรับว่าตึงใส่ เพราะมีคนมาเล่าเรื่องด้อมคู่จิ้น “แบงค์ ศรราม – นุ่น ดำดง” ซึ่งแบงค์รู้สึกว่าจิ้นมากไปไง แล้วรู้สึกว่าทำไมนุ่นถึงนิ่ง ไม่พูดอะไร ทำให้เวลาเล่นคู่กับนางเอก อย่าง “น้องปอย ธนัชชา” คนก็ไปตามด่าน้องปอยไง ซึ่งน้องปอยที่เป็นนางเอกคนนี้ มีศักดิ์เป็นหลานแท้ ๆ ของแบงค์ แล้วทางฝั่งแบงค์ก็คิดว่า การที่นุ่นไม่ออกมาเคลียร์อะไรเลย หรือว่านุ่นคงโอเคกับด้อมคู่ ซึ่งนุ่น ดำดงเอง ก็งงไง เพราะตัวเองไม่ใช่คนตั้งด้อม จะไปห้ามอะไรได้ เรื่องนี้ทำให้มีผลต่อหน้าเวที จนนุ่นต้องกลับมาหวนคิดว่า แล้วตนผิดอะไร การไม่มีคนคุย ไม่ใช่แค่คนในวง แต่หัวหน้าก็ไม่คุยด้วยไง ทำให้นุ่นรู้สึกว่า มันไม่ใช่ความสุขแล้ว จึงตัดสินใจถอยออกมา
นอกจากนี้ ดำดง ยังเล่าต่อว่า หนูเคยคิดว่าที่เขาตึงกับหนู เพราะเรามางานช้า บกพร่อง ไม่ได้มาออกแขก ไม่ได้มารำ ไม่ได้อะไร หัวหน้าเขาตึงกับเราเรื่องนั้นหรือเปล่า หนูก็เลยปรับ อย่างที่ทุกคนเห็น เดือน เม.ย ไม่ได้รับงานไลฟ์เลย บอกพี่สาวว่าหยุดรับงานไลฟ์ก่อนดีกว่า กลัวว่าจะเป็นเรื่องนี้ที่บกพร่อง ไม่ได้มาทำหน้าที่ ก็เลยปรับเปลี่ยน ลองไม่รับงานไลฟ์ มางานให้ตรงเวลา แต่พอปรับแล้ว มางานตรงเวลา ทำหน้าที่ปกติ กลับไม่มีใครคุยเลย หนักกว่าเดิมคือไม่คุยเลย ตนก็เริ่มค้างคาอยู่ในใจ ลำบากใจ ไม่รู้ทำอะไรผิด คนในวงก็ไม่คุยกับหนู ทำไมเราไม่รู้สึกอุ่นใจ และไม่รู้สึกเป็นเซฟโซนเลย เราคิดอย่างนี้ หนูไม่ได้หวังว่าใครจะมาโอบกอดหนูในวันเจอปัญหา ถามหนูสักคำว่าโอเคมั้ยนุ่น โอเคมั้ยเพื่อน แค่นั้นจริง ๆ ไม่ได้หวังอะไรเลย หนูบอกว่าหลังเวทีต่อให้ไม่คุยกัน แต่หน้าเวทีก็ยังบิ้วกันได้และเล่นด้วยกันได้ หนูเดินขึ้นมาบนโรงลิเก และนั่งกับที่ บางทีหนูอยากไลฟ์สด เพื่อคุยกับพี่ ๆ จะได้ลืม ๆ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
