ทำเอาคนในวงการบันเทิงลุกฮือ เมื่อนักแสดง-ผู้จัดละคร ถา-สถาพร นาควิไลโรจน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ได้ยินแล้วสะเทือนใจ ช่องใหญ่ คืนงานหลายผู้จัดหลังอนุมัติ-เตรียมงานกันเป็นปี แล้วแบบนี้จะไปต่อกันอย่างไร” ซึ่งทันทีที่โพสต์มีคนที่ทำงานทั้งในและนอกวงการบันเทิงเข้ามาแสดงความเห็นในโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
และทันทีที่ประเด็นดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นวงกว้างมากขึ้น ผู้จัดคนเก่ง ถา สถาพร เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า จากข้อความดังกล่าวที่มีการโพสต์ไปนั้น เริ่มต้นจากมีเพื่อนที่เป็นผู้จัดละครของช่องหนึ่งเป็นฝ่ายมาเล่าให้ฟัง ทันทีที่ได้ยินนั้นเจ้าตัวในฐานะเพื่อนร่วมวงการและผู้จัดละครเช่นกัน รู้สึกตกใจเพราะเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับเจ้าตัวมาก่อนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังคงมีเรื่องนี้เกิดขึ้นในวงการอยู่เรื่อย ๆ แต่แค่ไม่ได้มีการพูดถึงมากเป็นวงกว้าง ทำให้เจ้าตัวต้องโพสต์ข้อความดังกล่าวลงไปในพื้นที่ส่วนตัว เพื่อเป็นการตั้งคำถามว่าต่อไปในอนาคตจะหาทางออกของเรื่องนี้ได้อย่างไร ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นให้คนพูดถึงมากขนาดนี้
ส่วนตัวในอดีตเมื่อครั้งทำงานในฐานะนักแสดง เคยถูกเปลี่ยนตัวกระทันหัน ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำจริงเพียง 2 วัน ตอนนั้นก็รู้สึกแย่ ก่อนที่ช่วงหลังจะผันตัวมาทำงานเป็นผู้จัดละครก็เคยถูกช่องคืนงานเหมือนกัน ตอนนั้นก็ถึงกับเซ เพราะได้วางแผนการทำงานต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว แต่สุดท้ายแผนที่วางไว้ก็ไม่เกิดขึ้นจริง ทำให้ตอนนี้เข้าใจเพื่อนผู้จัดละครที่กำลังเผชิญกับการที่ช่องคืนงานเป็นอย่างดี
การถูกช่องคืนงานสร้างความเสียหายอย่างมาก หากรวมในเรื่องความรู้สึกไปด้วยจะไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าตัวเลขได้เลย เพราะกว่าจะเป็นละคร 1 เรื่อง ผู้จัดจะต้องมีการเตรียมงานไว้ล่วงหน้าราว ๆ 1 ปี มีการติดต่อสถานที่ ปรับแก้ Treatmant หรือแม้กระทั่งติดต่อนักแสดงที่จะมาร่วมงานไว้แล้ว ทีมงานบางคนมีความหวังว่างานที่จะได้ทำนั้น จะทำให้มีรายได้นำไปต่อยอดในครอบครัว ส่งลูกเรียน หรือวางแผนธุระส่วนตัว แต่เมื่อช่องเลือกที่จะคืนงานโดยง่าย ๆ ความเสียหายจึงไม่สามารถประเมินค่าได้ ส่วนตัวในฐานะผู้จัดละครอยากให้ช่องมีมาตรการรองรับในส่วนนี้อย่างชัดเจน เพื่อที่จะเยียวยากรณีการคืนงานแบบนี้ในอนาคต เพราะบางครั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีการถูกกระจายไปใช้ในงานบางส่วนแล้ว
ในฐานะคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานถึง 38 ปี มีความเข้าใจดีในเรื่องของรายได้ หรือตัวเลขผลประกอบการของแต่ละบริษัท เข้าใจถึงปัญหาที่อุตสาหกรรมบันเทิงกำลังเผชิญอย่างดี แต่ก็เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างการคืนงานน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ ส่วนตัวจะให้เป็นตัวตั้งตัวตีในการเรียกร้องหรือระดมผู้จัดละครเพื่อหาทางออกร่วมกันคงไม่ทำ เพราะคิดว่าในวงการบันเทิงมีหน่วยงานหรือสมาคมที่น่าจะมีอำนาจในการหาทางออกในเรื่องนี้อยู่แล้ว
สำหรับเจ้าตัวยังรู้สึกโชคดีที่อย่างน้อยในปีนี้ 2567 ยังมีงานละครที่ได้รับความไว้วางใจจากช่องให้ทำ แต่สำหรับปี 2568 ทิศทางการทำงานจะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบได้
ส่วนผู้จัดละครที่เผชิญปัญหาการถูกช่องคืนงานนั้น มีทั้งคนที่ยังกัดฟันลุยต่อทำงานในเส้นทางเดิมแบบเจ้าตัว รวมไปถึงคนที่เบนเข็มไปสายอื่นก็มี หรือแม้กระทั่งบางคนเลือกที่จะไปทำละครแนวคุณธรรมที่มีการแชร์ในโซเชียลด้วย เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ากำไรจากการทำงานละครถ้ายกตัวอย่างจากเมื่อก่อนที่ 100 เปอร์เซนต์ ตอนนี้ถ้าได้กำไรราว ๆ 10 เปอร์เซนต์ก็ถือว่าโอเคแล้ว แนวโน้มสำหรับปัญหานี้ในฐานะผู้จัดไม่สามารถตอบได้เพราะไม่มีอำนาจมากขนาดนั้น แค่อยากตั้งคำถามกลับไปเฉย ๆ ถึงทางออกที่จะทำให้ทั้งผู้จัดและทีมงานทุกคนรู้สึกพึงพอใจ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
