คอมเมนต์เสียงแตก หลังคุณแม่ชาวเน็ตท่านหนึ่ง ออกมาตั้งโพสต์ “เฮนะ!!อีเล่าไหรหลก ๆ ให้ฟังพี่น้องเหอ พอดีพาลูกมาระบายสีที่ ร5 มาเจอกับนักร้องดังที่บ้านอยู่ทุ่งสงกัน พาลูกมาระบายสีกันพอดีลูกเค้ากับหลานเราวิ่งเล่นกัน ลูกเค้าทำท่าอีล้ม ด้วยความที่เราเป็นแม่คนแล้ว ก็ว่าจะช่วยจับเด็กอย่าให้ล้ม พี่เลี้ยงพูดว่า อย่าโดนตัวน้อง ถูกตัวน้องไม่ได้นะค่ะ แม่เห้ย ฉันก็ไม่อยากจะจับหรอกนะ แต่เป็นห่วงเด็ก เลยอยากช่วย แต่คำพูดพี่เลี้ยงทุเรศมาก ถ้าห่วงลูกขนาดนั่นก็ไม่ต้องพามาเที่ยวสถานที่พันนี้ค่ะ เก็บลูกคุณใส่ตู้แก้วไว้โชว์ไว้ดูคนเดวเลยค่ะ พอเริ่มดัง แล้วกลับมาลืมตัวอีกแล้วนะ ฉันเลิกติดตามไปแล้วค่ะ เด็กนั่นน่ารักนั่นแหละ แต่ผู้ใหญ่ทำตัวหน้าเกลียดมาก ขอบอก” ซึ่งมีคนเข้ามาคอมเมนต์เกือบ 5 พันข้อความ ทำนองว่าเลิกติตตามนักร้องคนนี้ไปนานแล้วเช่นกัน แต่บางส่วนแนะนำว่าให้ฟังความสองข้างดีกว่า
ล่าสุดวันนี้(28 ก.พ. 2567) นักร้องแดนใต้ชื่อดัง เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมารีโพสต์ข้อความของคุณแม่ท่านนี้ พร้อมแคปชันชี้แจงในมุมของตน ระบุว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณหากเหตุการเมืองที่เกิดขึ้นเกิดจากน้องกำลังจะล้ม และต้องกราบขอโทษแทนพี่เลี้ยงของยูจินด้วยค่ะ ที่พูดว่าไม่อนุญาตให้จับตัวน้อง เนื่องจากน้องยูจินไม่สบาย มีน้ำมูก เลยเป็นห่วง จึงพูดแบบนั้นออกไป แต่จากการสอบถามพี่เลี้ยงและเพื่อนๆเจนนี่อีก 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องที่น้องจะล้มไม่เป็นความจริง แต่สาเหตุมาจาก น้องยูจินกำลังเล่นอยู่แต่ทางพี่ที่โพสต์ต้องการจะจับน้อง (โดยพี่เลี้ยงไม่ทราบเจตนาว่าจะจับเพื่อถ่ายรูปหรืออย่างไรเพราะตอนนั่นน้องกำลังเล่นอยู่ค่ะ และญาติ ๆ ของพี่ต้นโพสต์ ประมาณ 2-3 คน ก็กำลังถ่ายรูปน้อง เลยคิดว่าจะจับไปถ่ายรูปเลยห้ามไปก่อน และต้องกราบขออภัยหากเพื่อน ๆ และทางพี่เลี้ยงเข้าใจผิดในส่วนนี้ เพราะทุกคนก็ยังยืนยันตามที่เห็นค่ะ )
สำหรับเรื่องแบบนี้เจนนี่แค่มองถึงเจตนาทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับพี่ต้นโพสต์ เจนนี่เข้าใจดีค่ะว่าเสียความรู้สึกที่โดนห้ามจับน้อง และสำหรับพี่เลี้ยงเจนนี่ก็เข้าใจเจตนา เพราะเค้าบอกว่าน้องกำลังเล่นเลยเป็นห่วงหากใครจะมาจับหรืออุ้ม ในขณะที่เค้ากำลังสนุก ทุกอย่างล้วนมาจากความเป็นห่วงน้องค่ะ เพราะเหตุการณ์ล่าสุด คือน้องโดนจับแก้มมาแล้วมีพริกติดหน้าน้องจากมือของคนที่จับ พี่เลี้ยงคงกลัวว่าจะเกิดขึ้นซ้ำเลยต้องพูดห้ามไว้ก่อน เจนนี่เข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก ต้องกราบขอโทษจากใจจริงในส่วนนี้ค่ะ แต่สิ่งที่เจนนี่ไม่โอเคคือการพาดพิงถึงความดังแล้วลืมตัว เจนนี่ไม่แน่ใจว่า พี่กำลังว่าน้องหรือว่าเจนนี่ เพราพถ้าว่าเจนนี่ เจนนี่นั่งระบายสี ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ไม่น่าจะเอามาเหมารวม แล้วไปโพสต์กันแบบนี้ สำหรับเจนนี่เอง ไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองดังมาจากอะไร ไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองเป็นใคร และไม่เคยทนงตัวว่าตัวเองวิเศษกว่าใคร ๆ เจนนี่อยากให้พี่ ๆ ทุกคน แยกระหว่าง ความดังกับการเลี้ยงลูกออกจากกัน ต่อให้ดังหรือไม่ดัง ทุกคนก็มีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไปค่ะ ในส่วนนี้ และจะระมัดระวังในครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ”
งานนี้คุณแม่เจ้าของโพสต์เข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับใต้โพสต์เจนนี่เช่นกันว่า “ก็สมควรจะพูดแบบนั้นไหมค่ะ พูดดี ๆ ก็ได้ค่ะ ถ้าคนพูดคิดสักนิด ว่าถ้าพูดไปแล้วคนฟังจะรู้สึกยังไง แค่พูดก็ได้ว่า ไม่เป็นไรค่ะ ก็จะเป็นไรมั่ง แล้วอีกอย่างเมื่อคืนก็ได้ยินหลายคน แล้วฉันก็อายคนเหมือนกันที่พี่เลี้ยงทักแบบนั้น คนจะมองฉันยังไงค่ะ คนคงคิดว่าฉันเป็นตัวเชื้อโรคหรือค่ะ หรือคิดว่าฉันเป็นเสนียด แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ได้จะจับลูกคุณถ่ายรูปค่ะ เพราะฉันไม่เคย อินกับพวกดารานักร้องอยู่แล้ว อีกอย่าง ฉันก็ไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องจับเด็กถ่ายรูป เพราะลูก ๆ หลาน ๆ ที่บ้านก็เต็มหมดแล้ว ถ้าอยากรู้ความจริง พยานที่เกิดเหตุ คนเต็มหมด ได้ยินกันเพ จนฉันถูกมองว่าเป็นเชื้อโรคที่จะไปจับตัวเด็ก ทักมาได้ยังไง อย่าโดนตัวน้อง อย่าถูกตัวน้องนะค่ะ ถ้าเด็กเดินเฉย ๆ ฉันคงไม่ไปจับหรอกค่ะ แล้วก็ไม่ได่จะไปถ่ายรูปด้วย เพราะไม่ได่เหอดารา บ้านักร้อง”
ซึ่งทางนักร้องสาวได้ตอบกลับต่อ อีกว่า “ถ้าเรื่องที่พี่เลี้ยงพูดว่า ไม่ให้จับน้อง เจนนี่ต้องขอโทษด้วยค่ะ เพราะโดยปกติเค้าจะพูดแบบนั้นเสมอ เลยทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายค่ะ แต่ส่วนที่ไม่เข้าใจคือมันเกี่ยวอะไรกับเจนนี่คะ ที่บอกว่าดังแล้วลืมตัว โพสต์จนคนในพื้นที่ตามไปคอมเมนต์ทำให้รู้สึกแย่กับเจนนี่ขนาดนั้น ตรงนี้ไม่เข้าใจค่ะ” ท่ามกลางชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา ใต้โพสต์อย่างล้นหลาม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
เจนนี่ รัชนก โต้ทันควัน! ปมชาวเน็ตตั้งโพสต์ ถูกพี่เลี้ยง น้องยูจิน ห้ามโดนตัวน้อง ชี้ดังแล้วลืมตัว
เข้าชม 467 ครั้ง