ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับและผู้สร้างภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดัง เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงการทำงานในซีรีส์เรื่อง The Outing ที่คว้าผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังรวมถึงนักแสดงหน้าใหม่ร่วมงานอย่างคับคั้งว่า ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์ที่สร้างขึ้นเพื่อมอบความบันเทิงให้กับผู้ชม ในขณะเดียวกันยังมีการตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ของสถาบันครอบครัวในประเทศไทยที่มีข่าวน่ากลัวเกิดขึ้นในเห็นอยู่เป็นประจำทุกวัน ไปจนถึงผลกระทบจากความรุนแรงในสถาบันครอบครัวที่มีไปถึงคนอื่น ๆ ด้วย และแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันครอบครัวโดยตรง แต่ในฐานะผู้สร้างซีรีส์คุณชายอดัมเผยว่าการสร้างผลงานแบบตรงไปตรงมา แล้วมองด้วยสายตาที่เป็นธรรมจะช่วยป้องกันไม่ให้ซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันครอบครัวมีดรามาตามมา
อีกทั้งยังเชื่อว่าผู้ชมในยุคสมัยนี้สามารถแยกแยะได้ระหว่างเจตนากับการขายของ แต่ต่อจะให้เกิดดราม่าขึ้นในมุมมองของคุณชายอดัมกลับมองว่า ซีรีส์ได้ได้กลายเป็นสิ่งที่เข้าไปทำให้เกิดการถกเถียงกัน เนื้อหาของซีรีส์ได้เข้าไปสู่การกระตุ้นในเรื่องผิดชอบชั่วดีของคนในสังคม
ถามว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมละครและซีรีส์ในประเทศไทยหรือไม่ ในมุมมองของคุณชายอดัมมองว่า จะเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมากกว่า การทำงานไม่ได้ต้องการยกระดับตัวเองเพื่อไปเปรียบเทียบกับใคร แต่เป็นการทำงานเพื่อยกระดับตัวเองมากกว่า นำผลงานไปเปรียบเทียบกับผลงานที่ผ่านมาของตัวเอง ในมุมคนทำงานไม่อยากย่ำอยู่กับที่ เช่นเดียวกับนักแสดงที่มาร่วมในซีรีส์เรื่องนี้คุณชายอดัมเชื่อว่าทุกคนมาเพื่ออยากยกระดับคุณภาพงานของตัวเองไม่ได้อยากทำอะไรที่มันย่ำอยู่กับที่เช่นกัน
การใช้นักแสดงมากถึง 22 คนในซีรีส์เรื่องนี้ คุณชายอดัมเผยว่า ต้องการนำตัวละครมาเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัว อีกทั้งยังมีนักแสดงคนอื่นๆ ที่คุณชายอดัมอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว อาทิ “นนกุล” ที่รู้จักกันมานาน รวมไปถึง “เจนิส เจณิสตา”และ “นิวเคลียร์ หรรษา” ด้วย รวมไปถึงนักแสดงหน้าใหม่ที่ทุกคนมีเสน่ห์แต่ยังขาดพื้นที่ในการทำให้เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง คุณชายอดัมจึงอยากให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกคนได้มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถมากขึ้นด้วย
ด้านหนุ่ม นนกุล หนึ่งในนักแสดงเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมโปรเจกต์ในครั้งนี้โดยคุณชายอดัมเป็นคนที่มาเล่าพล็อตเรื่องคร่าว ๆ ให้ฟังด้วยตัวเอง ซึ่งทันทีที่นนกุลได้ฟังก็รู้สึกชอบจึงรับเล่นเรื่องนี้ทันที โดยการทำงานกับคุณชายอดัม นนกุลเผยว่าคุณชายเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจและพูดคุยกับนักแสดงทุกคน ทำให้การทำงานค่อนข้างที่จะง่ายมากขึ้นและนักแสดงก็กล้าที่จะใส่ไอเดียของตัวเองลงไปด้วย โดยเรื่องนี้ได้สร้างความแปลกใหม่ในการทำงานในฐานะนักแสดงของนนกุลมากขึ้น โดยมีการดึงศักยภาพในฐานะนักแสดงของตนในด้านการทำงานกับคนที่มีจำนวนมากออกมา นนกุลจะต้องมีการจัดสรรเรื่องของซีนในการทำงานให้ถูกต้อง การทำงานในกองถ่ายซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่สิ่งที่รู้สึกพิเศษคือเรื่องของการจัดสรรเวลาของกองถ่ายที่เมื่อก่อนจะมีการขยายเวลาไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ถ่ายทำจนเสร็จในแต่ละวัน แต่สำหรับกองนี้จะมีแบบแผนที่เป็นระเบียบทำให้นักแสดงไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไปทำให้ผลลัพธ์ของการทำงานออกมาได้เต็มที่แบบ 100%
ขณะที่ “ไป๋ เอกภพ” ผู้กำกับซีรีส์เผยว่าความยากของการร่วมงานกับนักแสดงทั้ง 22 คน คือ การจำชื่อนักแสดงให้ครบทุกคน ซึ่งข้อดีของนักแสดงที่ได้ร่วมงานในเรื่องนี้ทุกคนจะเข้าหาผู้กำกับหลังจากที่มีการวิเคราะห์ตัวละครของตัวเอง การที่นักแสดงมีหลากหลายช่วงวัยและมีจำนวนมากก็ถือเป็นการท้าทายอย่างหนึ่งในฐานะผู้กำกับ ซึ่งการร่วมงานกับนักแสดงน้องใหม่นั้น ทุกคนต้องมีการทำความเข้าใจในเรื่องการแสดงที่มากขึ้น เพื่อให้การแสดงออกมากลมกลืนกันไม่โดดจากกัน ทำให้ฐานะผู้กำกับก็รู้สึกสนุกและรู้สึกตื่นเต้นกับการทำงานในครั้งนี้อย่างมาก.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
