เพราะยอมไม่ได้ จึงเอาเรื่องให้ถึงที่สุด “ศุภณัฐ นามวงศ์ – อวิรุทธ์ อรรคบุตร” กรรมการบริหาร ไทบ้านสตูดิโอ จากภาพยนตร์ 700 ล้าน “สัปเหร่อ” หลังมีผู้พบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ “สัปเหร่อ” ในรูปแบบหนังกลางแปลงจากหน่วยฉายภาพยนตร์รายหนึ่งจากภาคกลางที่เดินทางมาฉายในหมู่บ้านวังเย็น อ. แปลงยาว จ. ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (8 ม.ค. 66) ศุภณัฐ นามวงศ์ (สูทน้ำเงิน) – อวิรุทธ์ อรรคบุตร (เสื้อเขียว) และ ทนายความ พรสิทธิ์ รักษาทรัพย์ เดินทางเข้ามายื่นฟ้องในความผิดตามพรบ.ลิขสิทธิ์ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดย “ศุภณัฐ – อวิรุทธ์” เปิดใจว่า มีผู้หวังดีให้เบาะแสว่ามีการละเมิดฉายหนังกลางแปลง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ละเมิด 2-3 เจ้า โดยหนังที่ฉายออกไปเป็นหนังที่แอบถ่ายในโรงหนังอีกที ซึ่งเป็นเคสเดียวกันที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ โดยทางบอร์ดบริหารจึงคิดหาทางดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีโดยตรง แต่ทางทีมงานได้พูดคุยหลาย ๆ จอฉายเพื่อรวบรวมหลักฐานไว้มาดำเนินคดีในวันนี้
ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ “ศุภณัฐ” รู้สึกไม่โอเค เพราะเราได้ลงทุนลงแรงกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไปมาก และรู้สึกไม่แฟร์กับการกระทำนี้ ถ้าไม่ลุกขึ้นทำอะไร ก็คงมีเหตุการณ์แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อยากทำให้เป็นแบบอย่าง “ถ้าคุณกล้าทำ เราก็กล้าฟ้อง” และไม่คาดคิดว่าจะกล้าทำในสังคมที่มันเจริญแล้ว เผยอีกว่าผู้กำกับภาพยนตร์ “ต้องเต ธิติ” รู้สึกไม่โอเค เพราะตั้งใจทำหนัง เมื่อมีคนขโมยงานไปขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในฐานะคนทำรู้สึกเสียความรู้สึก และนักแสดงคนอื่น ๆ ก็คนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้ ยืนยันจะไม่ยอมความและ ดำเนินการให้ถึงที่สุด ซึ่ง อวิรุทธ์ เสริมว่า การกระทำเช่นนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อหนังกลางแปลง และทำให้ผู้ชมได้รับชมช้าลงด้วย
ส่วนทนายความ พรสิทธิ์ รักษาทรัพย์ เผยว่า ตอนนี้ยื่นฟ้องในความผิดตามพรบ.ลิขสิทธิ์ ลักษณะการเอาผลงาน “สัปเหร่อ” ออกให้เช่าและเผยแพร่เพื่อการค้า และเรียกความเสียหายไป 30 ล้าน ประเมินจากการขาดประโยชน์ทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในประเทศสิทธิต่างประเทศ และการขายลิขสิทธิ์ในอนาคต เบื้องต้นดำเนินการฟ้องบุคคล เพียงบุคคลเดียว ส่วนตัวไม่ได้คุยกับจำเลย แต่ค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี โดยวันที่ 18 มีนาคม ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้อง และ ศาลจะออกหมายเรียกตัวจำเลยต่อไป.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน