เปิดหมดเปลือกชีวิตวงการบันเทิงเกือบ 20 ปีของนางเอกพันล้าน “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ถึงการรับมือกับดราม่าต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันในวงการบันเทิง รวมถึงเรื่องความรักที่ลงตัวกับ “เต๋อ ฉันทวิชช์” ยอมรับคือคู่ที่สมบูรณ์แบบ อยากมีครอบครัวมาก วางแพลนอนาคตเรื่องแต่งงานไว้แล้ว ในรายการ WOODY FM
เกือบ 20 ปีที่ผ่านมาเจอดราม่าและยังต้องดูดีตลอดเวลาจนถึงสามารถเปิดใจเรื่องแฟนได้ การโตขึ้นเรื่อยๆ ในวันนี้คุณรู้สึกว่าเริ่มเบาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนขนาดไหน?
“เยอะมาก 100 % แล้วก็เริ่มรู้จักตัวเอง ใช้เวลาในการรู้จักตัวเอง คือไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร พูดอะไรไปถูกไหม คือมันมีภาพที่เราจะต้อง ฉันต้องเป็นนางเอก ทุกอย่างมันจะต้องถูกกำหนดให้เป็นอย่างนี้ แต่ขอบคุณโลกปัจจุบันมาก ๆ ที่เขาทำให้พวกเราเป็นคนมากขึ้น ให้ทุกคนรู้ว่าเขาแยกแยะออกจริง ๆ อย่างทุกคนมีแฟน ก็มีกันอย่างเปิดเผย ใช้ชีวิตอย่างเปิดเผย ไม่มีอะไรที่ต้องมาตามธรรมเนียมที่ต้องเรียบร้อย ผ้าพับไว้ อะไรอย่างนี้ ใหม่ทำงานในวงการปีหน้าจะครบปี 20 แล้วค่ะ”
มีอะไรในความเป็นดาราที่เรารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป?
“อย่างแรกเลยคนเข้ามาขอถ่ายรูป ใหม่โชคดีที่เราไม่เคยเบื่อ แล้วก็รู้สึกว่าอยู่ในยุคที่เราต้องยิ้ม แต่เรายิ้มจริง ๆ นะ คือเราอยากเจอเขาจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าอยู่ในช่วงชีวิตที่การมีคนที่ยังชื่นชอบเราอยู่ถือเป็นความโคตรโชคดีเลย คือดังนั้นถ้าเด็กรุ่นใหม่โดนคนรุมเยอะ ๆ เราก็จะบอกว่าคุณต้องภูมิใจนะ เพราะว่าวันหนึ่งพวกเขาจะหายไป เราก็จะบอกน้อง ๆ ที่รู้จักว่าดีแล้วที่มีคนรักอย่างนี้รักษาไว้ บางทีเราไม่ต้องไปเหนื่อยมากเลยไม่อยากถ่ายรูปหรืออะไรอย่างนี้ เรายิ้มไว้ก่อน สำหรับหนูรู้สึกว่าเราจะไม่มองตาคนเยอะขึ้น ไม่มองตาคนมากเท่าเดิม เวลาเราไปซุปเปอร์มาร์เก็ตไปอะไรอย่างนี้ จะไม่ค่อยคิดเยอะแล้วค่ะ คือถ้าใครจะมาขอถ่ายรูป เขาเข้ามาเราก็ดีใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชื่อเสียงของเรามันทำให้คนเข้ามาเราก็แค่ซาบซึ้งมัน”
ช่วยเล่าถึงปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ถึงดราม่าที่เคยเจอและการก้าวผ่าน?
“เวลาใหม่เห็นข่าวดารา ไม่ว่าจะยังไง เราไม่รู้ความจริงว่ามันจริงหรือผิดแต่ว่าใหม่เชียร์ตลอดเลย ใหม่ให้กำลังใจคนในวงการด้วยกันนะ แล้วบางทีใหม่ส่งข้อความไปด้วย บางคนโดนโกงโดนอะไรแบบนี้ เราไม่รู้นะ แต่เรารู้สึกว่าแค่อยากจะส่งไปให้กำลังใจ ตอนที่ใหม่โดนดราม่าก็มีเหมือนกันที่เป็นพี่ ๆ ที่ส่งข้อความเข้ามา อันแรกเลยรู้สึกเป็นกำลังใจให้ทุกคนจริง ๆ มันไม่มีอะไรที่เรียกว่าง่ายเลย ต่อให้คุณจะโดนมา 10-30 ครั้ง สำหรับใหม่นะไม่มีครั้งไหนรับมือได้ดีเลย ครั้งแรกมันจะสติแตกก่อน จะฟุ้งไปหมด”
เรื่องที่ท้าทายที่สุดในชีวิต และคุณก้าวผ่านมายังไง?
“ที่จริงก็น่าจะเป็นเรื่องอุปสรรคในชีวิตทุกอย่าง ถ้ากระทบกระเทือนจิตใจจริง ๆ ก็น่าจะเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการงาน เพราะว่าเหมือนเราโตมา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเลี้ยงเรา เลี้ยงครอบครัวเราได้ก็น่าจะเป็นเรื่องของเงินเนอะ ดังนั้นการงานก็สำคัญมาก เราก็อยากทำให้มันค่อนข้างมั่นคง อะไรที่มากระทบกับงานเรา แล้วพอเราเป็นดาราสิ่งที่กระทบที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องข่าว เรื่องกระแส จะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างกังวลว่ามันจะทำให้เงินและงานเราน้อยลงไหม เพราะว่าเราไมใช่ดูแลตัวเองคนเดียวไงเราต้องดูแลทั้งครอบครัว”
คุณแม่ก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานเลย?
“คือแม่หนูเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อแม่แยกกันตั้งแต่เราอายุ 10 ขวบ ดังนั้นหนูก็จะอยู่กับแม่ และก็มีคุณน้าที่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นเหมือนแม่ ทุกวันนี้หนูก็นอนกับน้า ตั้งแต่เกิดจนอายุ 32 ปี ก็ยังนอนกับคุณน้าทุกคืน ส่วนแม่เขาก็เป็นผู้หญิงทำงาน เขาจะทำงานอย่างเดียวเลย”
เป็นคนแบบไหนอยู่กับปัจจุบันหรือเป็นคนคิดถึงอนาคต?
“หนูคิดถึงอนาคตตลอดเวลาเลยค่ะ คิดว่าจะแต่งงานที่ไหน ใส่ชุดอะไร คือคิดไว้หมดเลยค่ะ แต่ว่าอนาคตของหนูเนี่ยเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ ยืดหยุ่นมาก ๆ เปลี่ยนได้หมด จะมีลูกก็ได้ไม่มีลูกก็ได้ คิดได้หมดเลยแล้วก็ชอบด้วยค่ะ อยากมีครอบครัวมาก กับพี่เต๋อ(ฉันทวิชช์) อย่างหนึ่งคือสบายใจ เขาเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบกับหนูมาก ๆ พอดีทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขามีแล้วหนูไม่มี น่าจะเป็นเรื่องความช้ามั้งคะ หนูเร็วเขาช้ามันก็เลยบาลานซ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหนูมาก หนูต้องการอันนั้นในชีวิตมาก เขามาเหมือนช่วยชีวิตเหมือนกัน เป็นหนึ่งคนที่เหมือนช่วยในวันที่ทุกอย่างมันเร็วไปหมดแล้วเราหลงทางมาก ๆ ไม่มีคนที่จะคอยปรึกษา คอยระบาย เขาเข้ามาถูกจังหวะพอดี ก็เลยโดนไปเต็ม ๆ ฟังไปให้หมด (หัวเราะ) เขาเป็นนักฟังที่ดีมาก”