“กรีน อัษฎาพร” เคลียร์ดราม่าแฟนละครไม่พอใจตอนจบ เผยตนไม่มีสิทธิ์แก้ไขบท เรื่องแต่งยังไม่รีบเคลียร์หนี้หมดค่อยว่ากัน

ถือเป็นการพลิกบทบาทที่ปังมาก สำหรับสาว“กรีน อัษฎาพร” แต่ไม่ใช่แครเรตติ้งที่สูงแต่กระแสยังดีมากอีกด้วย แต่ก้ไม่วายเจอดราม่าเพราะมีแฟนละครจำนวนมาก ไม่พอใจในตอนจบ งานนี้สาวกรีนเลยเปิดใจเคลียร์ชัด ตนแค่ทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุด เผยฝากไข่แล้ว 3 ปี เรื่องแต่งยังไม่รีบ รอเคลียร์หนี้หมดค่อยว่ากัน


โดย “กรีน” เปิดใจว่า ต้องขอบคุณมาก กระแสละครทำให้กรีนมีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ คนอยากเห็นรำนำ เราก็ไลฟ์สดไปตลอด เหมือนอยากคุยกับแฟนๆ ว่ารู้สึกยังไงกับละคร มีกระแสตอบรับยังไง ก็มีโอกาสได้คุย ได้เห็นฟีดแบค บอกว่าไม่ชอบรำนำ เกลียดรำนำ แต่ก็เห็นมีคนบอกว่าสงสารรำนำเหมือนกัน เมื่อคืนอวสาน รำนำกลับตัวกลับใจแล้วสำหรับในส่วนที่หลายคนไม่ชอบตอนจบ คือคิดว่าตัวร้ายต้องได้บทลงโทษ เรื่องนี้มองว่าหลากหลายความคิดเห็น ซึ่งกรีนอยู่ตรงกลาง กรีนได้หมด แต่ทุกอย่างอยู่ที่บท เราในฐานะนักแสดงก็เล่นตามบท แต่ละคนคิดเห็นแตกต่างกัน ก็เป็นสิทธิเสรีภาพแต่ละคนอยู่แล้ว อยากให้ลองมองภาพรวมละคร มองว่าเราทุกคนตั้งใจทำงาน ทีมนักแสดง ทีมเขียนบท ก็ต้องการให้ออกมาดีที่สุด แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว เรตติ้งก็สูงพอตัวอยู่ค่ะ

ถามว่าเราได้ถามพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ไหมว่าตอนจบทำไมเป็นแบบนี้ กรีนเผยว่าหนูก็ทำหน้าที่นักแสดง ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขบทหรืออะไรได้ค่ะ ส่วนตัวจุดจบรำนำจะเป็นยังไงกรีนได้หมดนะ กรีนนึกไม่ออกว่าควรเป็นประมาณไหน ได้หมด ในมุมมองกรีนนะ ต่อให้คนเราเคยร้าย เคยแย่ เคยทำตัวไม่ดีมาก่อน แต่ทุกคนก็ต้องการโอกาสในการแก้ไขตัวเอง ต่อให้คนเคยมีบาดแผล เขาอยากกลับตัวกลับใจเราควรยื่นมือไปให้โอกาสเขามากกว่าไหม มากกว่าเราจะไปซ้ำเติมเขา ละครอาจตัดตอนรวบรัดให้อยู่ภายในระยะเวลาที่สั้น แต่จริงๆ แล้วอาจมีเรื่องราวมากกว่านี้ก็ได้ ก่อนรำนำ 1 ปีผ่านไปอาจมีเรื่องราวมากกว่านี้ก็ได้ แต่ด้วยละครทำให้หลายๆ อย่างบีบอัดให้สั้นลง


กรีนคิดว่าทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุดในฐานะที่เราเป็นนักแสดงอิสระแล้ว เป็นโอกาสและจังหวะที่ดีทำให้เราได้รับบทแบบนี้ด้วย เป็นการพลิกบทร้ายครั้งแรกของเรา ไม่ได้เกิดจากตัวกรีนคนเดียว บทเอย ผู้กำกับเอย ค่ายและนักแสดงทุกคนร่วมมือกันให้ละครเรื่องนี้ออกมา กรีนแค่ทำทักษะในการแสดงของกรีนให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

ส่วนประเด็นที่ถูกมองว่าขึ้นแท่นเป็นลูกรักพี่ฉอด กรีนปัดลูกรักพี่ฉอด แต่ยอมรับมีละครต่อเนื่อง ขอบคุณรำนำ ทำให้คนมองว่าเป็นนักแสดงคุณภาพ ช่วยปลดหนี้เรื่อยๆ ได้โอกาสจากพี่ฉอดอีกหลายๆ เรื่องค่ะ เขามองนักแสดงเหมือนกันหมด อยู่ที่เรื่องนี้บทเหมาะกับใคร กรีนก็แค่เป็นหนึ่งในนั้นที่พี่ฉอดมองเห็นความสามารถและยื่นโอกาสกรีนมากกว่า เรื่องเซ็นสัญญายังไม่ได้คิดถึงค่ะ อยากอิสระไปก่อน อยากรับบทที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนที่บอกว่าพี่ฉอดอยากให้เป็นนางเอกคนแรกในสังกัดก็ไม่มีค่ะ ถามว่ากดดันไหม คนมองเป็นลูกรัก ชอบนะคะ ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา กรีนมองว่าเป็นโอกาสที่ดีมากกว่า ส่วนละครเรื่องอื่นก็มีติดต่อ ปีหน้าก็สองเรื่องค่ะ มีของพี่ฉอดอีกเรื่องนึงอยู่แล้วด้วย

กระแสดีเรตติ้งดี ถามว่าคาดหวังรางวัลไหม กรีนเผยว่า เรื่องรางวัลหนูยังไงก็ได้เลยค่ะ แล้วแต่เลย จะได้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเราทำงานไม่ดีหรือดี เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ก็เป็นเกียรติต่อละครเรื่องนี้ ต่อตัวเรา ต่อชื่อเสียงหลายๆ อย่างในอนาคตที่จะตามมา

นอกจากนี้ กรีนยังเปิดใจถึงเรื่องฝากไข่ด้วยว่า กรีนฝากมาประมาณ 3 ปีที่แล้ว จริงๆ ถ้าทุกคนรู้เรื่องกายภาพผู้หญิง เรื่องมดลูกผู้หญิงติดตัวกับเรามา ซึ่งเราต้องดูแลเขา เมื่อเราอายุมากขึ้นความเสื่อมถอยของมดลูกจะลดลงตามอายุของเรา ตอนนี้กรีนเข้าเลขสามแล้วพอเข้าเลขสามคนก็จะถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ กรีนก็ไม่พร้อม ธันวา ก็อยากทำงาน แต่จะทำยังไงให้รังไข่เราคงอายุแบบสาวๆ วัยรุ่นได้ นั่นคือวิธีฝากไข่ เป็นอีกทางหนึ่งที่การแพทย์รับรองแล้วว่าได้ผลจริงๆ มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ข้างๆ คอยให้คำปรึกษาตลอด
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับอยากมีน้อง มันเกี่ยวกับสุขภาพเราค่ะในการฝากไข่ ถ้ามีน้องจะเป็นอีกประเภทนึง ทำกิ๊ฟต์เป็นอีกแบบนึง เรายังอยากสนุก ท่องเที่ยวไปเรียนต่อ ยังไม่อยากมีภาระ แต่ยังอยากมีความสดใหม่ของไข่ ของมดลูกของเรา เราแค่ดูดไข่ในช่วงนั้นของเรามาแช่แข็งน้องเขาไว้ก่อนเป็นตัวอ่อน วันใดวันหนึ่งที่เรามีครอบครัว เราพร้อมแล้ว เราก็ดึงตัวอ่อนนั้นมาปฏิสนธิกัน แล้วเราก็จะได้ไข่ที่สดและแข็งแรงในวันที่เราอายุมากขึ้น นี่คือผลลัพธ์ของการฝากไข่ ก็ได้ปรึกษาธันวาค่ะ เขาก็ให้ทำค่ะ


ถามถึงข่าวดีว่าจะมีเร็วๆนี้ไหม กรีนเผยว่า ไม่มีค่ะทุกคน เรายังมีหนี้ ช่วยกันผ่อนหนี้ก่อนเนอะ ถ้าหมดหนี้ค่อยว่ากัน เรื่องคุยเล่นๆ เลยจุดนั้นไปแล้ว เราโตขึ้น ธันวาตอนนี้เขาเริ่มเห็นตัวเองว่าอยากทำอาหาร อยากเปิดร้าน เขาโฟกัสเรื่องนี้ เราก็อยากโฟกัสที่งานแสดง อยากทำงานที่หลากหลายมากขึ้น ตอนนี้เราเดินคู่ขนานกันไป เรื่องของครอบครัวไม่ได้ตัดสินใจตอนนี้ค่ะ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 702 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม