อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก “สมรักษ์ คำสิงห์” สุดช็อก! หลังเจ้าตัวนัด “ส.จ.ดำ เมืองคอน” มาเคลียร์เงินที่ฉ้อโกงซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 10 ล้านบาท แต่อีกฝ่ายไม่มาตามนัด จึงตามไปที่บ้านย่านกรุงเทพ-กรีฑา พบเสียชีวิตยกครัว คาดว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกสาวอีก 2 คน ก่อนยิงตัวเองตาม
เมื่อเวลา 16.00 น. (วันที่ 10 พ.ย. 2564) ร.ต.อ.ไชยา บัวมาศ รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธปืน ภายในหมู่บ้าน ซ. กรุงเทพ-กรีฑา 7 จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก และฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก แพทย์นิติเวช รพ.ตร. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น ชั้นลอย 1 ชั้น ในบ้านพบร่างผู้เสียชีวิต 4 คน หนึ่งในนั้นคือ นายธวัชชัย ทองอ่อน อายุ 48 ปี หรือ อดีต ส.จ.ดำ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้าน เสบียงทิพย์ อาหารปักษ์ใต้ ย่านหลัง ม.รามคำแหง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกหนี้นักมวยคนดังหลังสมรักษ์นำเงินจำนวน 10 ล้านบาทไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่กลับไม่ได้รับของจนเป็นข่าวดังก่อนหน้า โดยคาดว่าภรรยาและลูกสาวทั้ง 2 คนจะถูก ส.จ.ดำ ยิงจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ตำรวจได้รับแจ้งจาก รปภ.ของหมู่บ้านว่าเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนจำนวนหลายครั้งดังออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เมื่อมาถึงพบว่าเจ้าของบ้าน ภรรยา และลูกสาว ถูกยิงเสียชีวิตทั้งหมด
ด้าน สมรักษ์ ที่เดินทางมาไกล่เกลี่ยธุรกิจกับผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า รู้จักกับ ส.จ.ดำ ตอนช่วงที่ตนมีปัญหาเรื่องเงินซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและไม่ได้ของ จนทำให้มีเรื่องขึ้นโรงพัก ฝ่าย ส.จ.ดำ ได้โทรศัพท์หาตน อ้างว่า สามารถหาของได้ จึงลองติดต่อซื้อ โดยมีผู้ร่วมหุ้นลงทุนด้วย 5-6 ราย
โดยมีการซื้อสลากกันมา 4 งวด แต่ไม่เคยได้ของตรงตามที่ตกลงกันไว้ จนกระทั่งมีการนัดหมายในวันนี้ (10 พ.ย. 2564) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมาที่ร้านเสบียงทิพย์ ซึ่งอีกฝ่ายเป็นเจ้าของ เพื่อขอคืนเงินงวดแรก 2.5 ล้านบาท และทาง ส.จ.ดำ บอกว่า จะทยอยจ่ายให้ในวันรุ่งขึ้นอีก 2.5 ล้านบาท จากยอดทั้งหมด 10 ล้านบาท หลังจากนัดหมายกันแล้ว ก็เดินทางไปที่ร้านตามนัด แต่ไม่พบตัว จนได้รับแจ้งจากตำรวจว่า อีกฝ่ายได้ก่อเหตุสลดดังกล่าวจึงได้ตามมาดูที่เกิดเหตุ
สมรักษ์ ยังเผยอีกว่า ในฐานะคนกลางที่มีผู้เชื่อมั่นนำเงินมาลงทุนกับตน ตอนนี้ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่จะขอเจรจากับญาติผู้เสียชีวิตก่อนว่าจะช่วยเหลือได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งยอมรับว่าอาจต้องแบกรับภาระหนัก.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
