29 พ.ย.นี้ “ฟ้าใส” เตรียมเดินทางไปรับมงกุฏ เผยเซ็นข้อตกลงสุดท้ายเพราะถูกกดดัน

ออกมาเปิดใจอีกครั้ง สำหรับ “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กับปมปัญหากับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ นำโดย บริษัท TPN 2018 จำกัดกับประเด็นการเซ็นสัญญา และข้อตกลง ฟ้าใส พร้อมด้วยผู้จัดการส่วนตัว และทนายความได้เปิดใจเรื่องนี้ผ่านรายการ “คุยแซ่บโชว์” หลัง “ปุ้ย ปิยาภรณ์” และ “ณะ ณรงค์” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ออกมาแถลง โดยชี้แจงหลายเรื่องที่หลายคนสงสัยเรื่องข้อเปลี่ยนแปลงในสัญญา 3 ฉบับ และการขอรับมงกุฏ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 คืนจากกองประกวด ซึ่งมีการสรุปใจความจากการสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้ว่า

ฟ้าใสได้เซ็นสัญญาฉบับแรก พร้อมกับผู้เข้าประกวด 60 คน ซึ่งในฉบับได้มีการข้อตกลงในเรื่องสิทธิ์ที่ต้องได้ในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 คือ


  • เงินรางวัล 1 ล้านบาท โดยมีการจ่ายงวดแรก 7.5 แสนบาท หลังคว้าตำแหน่งภายในเวลา 30 วัน ซึ่งฟ้าใสยังไม่เคยได้เงิน 7.5 แสนบาทนั้นเลยจนถึงตอนนี้ แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในตำแหน่งมีการหัก 30 เปอร์เซ็นต์มาโดยตลอด ตามสัญญาที่เซ็นไป
  • มงกุฎเพชร ที่จะได้ตั้งแต่วันที่รับตำแหน่ง ซึ่งไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้เซ็นฉบับที่ 2
  • สัญญาผูกพัน 2 ปี เป็นนักแสดง
  • รถยนต์ 1 คัน แต่ในสัญญาไม่ระบุยี่ห้อรถ แต่บนเวทีมีประกาศว่าเป็นยี่ห้อโฟล์คสวาเกน แต่ไม่เคยได้รถ
  • ได้ที่พักประจำตำแหน่ง 1 ปี ไม่มีการระบุ
  • ของรางวัลของสปอร์นเซอร์ใช้ 1 ปี
  • หักเปอร์เซ็นต์ 70 : 30
    จากนั้นเมื่อรับตำแหน่งและเดินทางไปประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ แอตแลนต้า ได้มีการเปลี่ยนสัญญาใหม่ ซึ่งเป็น ฉบับที่ 2 มีการระบุว่า
  • เพิ่มระยะเวลาจาก 2 ปี เป็น 3 ปี
  • สัญญานักแสดง เปลี่ยนเป็นสัญญาศิลปิน โดยควบคุมทุกอย่างภายใต้สังกัด ตามกฎระเบียบ
  • เปลี่ยนจากการหัก 70 : 30 เป็น 65 : 35 และถ้าได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส จะเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์การหักเป็น 50 : 50
  • ทางกองประกวดสามารถแก้สัญญาได้ทุกเมื่อ แต่ฟ้าใสต้องยอมรับด้วย ถ้าไม่ยอมก็ต้องเอาตามสัญญาฉบับเดิมที่เซ็นไปแล้ว
  • จากนั้นก็มีการขอให้เปลี่ยนสัญญาฉบับที่ 2 โดยทางแม่ฟ้าใสได้มีการขอแก้ไข จนมามีสัญญา ฉบับที่ 3
  • ในสัญญาฉบับที่ 3 ไม่ได้เปลี่ยนแค่เนื้อหาบางเรื่อง แต่เปลี่ยนของรางวัลเลย
  • สัญญาฉบับที่ 3 ระบุเรื่องของมงกุฏเพชร ให้เปลี่ยนเป็น มงกุฏที่ระลึก ซึ่งก็ซื้อที่สำเพ็งได้ ทั้งที่ในสัญญาฉบับที่ 1 และที่ 2 ระบุว่าเป็น มงกุฏเกียรติยศ
  • มงกุฏอยู่กับฟ้าใสจนกระทั่งเซ็นข้อตกลงฉบับสุดท้าย แต่จริง ๆ ก็อยู่กับกองตั้งแต่ช่วงปีใหม่แล้ว
  • สัญญาฉบับที่ 3 เปอร์เซ็นต์มีการแก้กลับมาที่ 70 : 30 ถ้าได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส ก็มีการหัก 70 : 30 เหมือนเดิม
  • ไม่มีการแจ้งยี่ห้อรถในสัญญา ถามกลับไปก็บอกว่าดิวไว้ 3 ยี่ห้อ ซึ่งเรื่องนี้มีคลิปเสียง
  • ในข้อสัญญาฉบับที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลง โดยอย่างเรื่องงานการกุศล ฉบับที่ 1-2 จะมีการออกจำนวน 12 ครั้ง แต่ในฉบับที่ 3 คือ ออกตามความเห็นชอบของกองฯ และต้องมีการรับผิดชอบแต่งหน้าทำผมด้วยตัวเอง ถ้าแต่งหน้าทำผมเอง แล้วแต่งตัวไม่เหมาะสม จะส่งลายลักษณ์อักษรเตือน 3 ครั้ง ถ้าเตือนแล้วไม่ดีขึ้นจะปรับ 1 แสนบาท
  • ฉบับที่ 1 มีการบอกถึงหน้าที่ของบริษัทจะต้องมอบเงินตามที่ตกลง แต่ฉบับที่ 3 ตัดในข้อนี้ออก
  • สัญญามีการเปลี่ยนรางวัลไม่ตรงกัน เลยทำให้ขอจบสัญญา
  • ในข้อตกลงสุดท้ายที่ตกลงกันคือ ได้รับเงิน 500,000 บาท โดยตอนแรกจะไม่ให้เลย แต่ทางคู่กรณีบอกว่าไม่ให้มงกุฏ ตนรู้สึกว่ามงกุฏเป็นของตนตั้งแต่วันที่ชนะ และได้รับตำแหน่งแล้ว
  • ล่าสุดมีการนัดไปเอามงกุฏวันอาทิตย์นี้ (29 พ.ย.2563) ตอนบ่าย 3 โมง
  • เซ็นข้อตกลงสุดท้าย เพราะถูกกดดัน เลยจำเป็นต้องจบกัน
    “ถ้าเกิดพูดตรง ๆ ตนได้มีการเซ็นข้อตกลงอันสุดท้ายไปแล้ว และก็มองว่าทางกองประกวดก็ได้ให้โอกาสหนูได้มีทุกวันนี้ได้เป็น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ดังนั้นสำหรับตนอโหสิและ มูฟออน แต่เรื่องของที่ทุกคนเข้าใจผิด ตนต้องการออกมาชี้แจงว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้นะ ไม่ใช่ว่าตนเรื่องเยอะ หัวหมอ แล้วเปลี่ยนสัญญา แต่ข้อเท็จจริงคือ มีการเปลี่ยนสัญญาก่อน” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
เข้าชม 175 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม