เป็นหนึ่งนักแสดงที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับ “ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ซึ่งพิธีกรอารมณ์ดี “เปิ้ล นาคร ศิลาชัย” ก็ได้ทำการรับกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และรับผิดชอบต่อสังคม ล่าสุดเมื่อครบกำหนดกักตัว “เปิ้ล นาคร” ก็กลับมาลุยงาน พร้อมกับเคลียร์วิกฤตที่เจอในช่วง 14 วัน ทั้งซากแมวที่เสียชีวิตบนหลังคา และร้านโคขุน คุณทอง 2020 บาย นาคร ที่รัชดา ซอย 4 เกิดไฟไหม้ โดย เปิ้ล นาคร เปิดใจกับ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า
“วันที่ทราบข่าวว่า เขา (ดีเจ.มะตูม) ติดโควิด ตอนนั้นก็ดึกแล้ว พอทราบก็ช็อกและทำอะไรไม่ถูก ก็เลยรีบวิ่งขึ้นรถตู้ ในใจคิดอย่างเดียวว่า ถ้าติดจะทำยังไง เพราะเราไปทำงานกับเขาและค่อนข้างอยู่ใกล้ ห่างกันแค่คืบเอง นั่งคุยกันใส่แค่เพียงเฟซชิลด์ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าใส่เฟซชิลด์ก็ต้องใส่หน้ากากด้วยถึงจะปลอดภัยที่สุด แวบแรกคิดว่าเป็น แต่เราไม่ได้โทษใครนะ จะติดมันก็ติด ไม่ได้อะไร เพราะไม่มีใครที่อยากจะเป็นหรอก แต่เราแค่เป็นห่วงลูก เพราะจะกอดจะหอมลูกเมียตลอดเวลา ตอนนั้นคือกังวลแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว
พอเรากระโดดขึ้นรถและรีบโทรหาจูน (จูน กษมา ภรรยา) เขากำลังอาบน้ำอยู่ พอเขารู้ก็รีบเปลี่ยนชุดและไปโรงพยาบาลด้วยกัน เพื่อตรวจ ก็รู้ว่าในระยะเวลาตอนแรก อาจจะยังไม่เจอผล แต่เพื่อความสบายใจก็เลยไปตรวจก่อนรอบแรก และก็กลับมากักตัวทันที”
ตอนกักตัวไม่เครียด อารมณ์คล้าย ๆ ตอนบวช เหมือนอยู่วัด อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม มีทีวี หนังสือธรรมะ มีโทรศัพท์อยู่เท่านั้นเอง และกินข้าวเป็นมื้อ ๆ ไป ทุกวันจะกังวลว่าจมูกได้กินไหม ตื่นเช้ามาพยายามดมกลิ่นไปเรื่อย ๆ และวันที่ตนโล่งอก ก็คือวันที่ได้กลิ่นแมวตายบนหลังคา “ชัดเลย ไม่เป็น เพราะจมูกได้กลิ่นดี กินอาหารรู้รสชาดปกติ
14 วันจากการกักตัวที่ผ่านมาคิดถึงลูกและภรรยามาก พอครบ 14 วันปุ๊บ ออกมากอดเลย เหมือนเกิดใหม่ อะไรก็พรากพวกเราจากกันไม่ได้ ใครจะบอกว่าตนพูดเว่อร์ ถ้าลองได้อยู่ช่วงเวลานั้น จะรู้ว่าในใจมันคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง
“และที่ผ่านมาก็ได้ไปตรวจ 3 รอบ ผมก็ถามหมอตลอดว่าไม่ได้เป็นชัวร์นะ หมอยืนยันว่าไม่ได้เป็นแน่นอน แต่ผมและทุกคนในครอบครัวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังต้องดูแลและป้องกันตัวเองเต็มที่ เพราะโควิดมันอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ “
เรื่องร้านไฟไหม้ ตอนนั้นตกใจเหมือนกัน เพราะเด็กที่ร้านโทรหาจูนตอนตี 3 ของคืนวันที่ 28 ม.ค.2564 แต่ตนเพิ่งรู้ตอนเช้า โดยภรรยาส่งรูปและคลิปมาให้ ซึ่งสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร บริเวณหลังร้าน เพราะร้านเปิดมาเป็น 10 ปี ซึ่งสายไฟมันเก่าแล้ว ส่วนตัวจริง ๆ ตั้งใจรีโนเวทร้านใหม่หลังโควิด แต่มาเกิดเหตุการณ์ซะก่อน ก็เลยได้ที่ทำทุกอย่างเลย ค่าเสียหายครั้งนี้ก็หลักแสนบาท ตอนนี้ร้านก็กลับมาเปิดแล้ว ปิดไปแค่ 2 วัน ขอบคุณแฟน ๆ ที่ยังให้การตอบรับที่ดี และร้านอาหารทั้งที่รัชดา และพระราม 3 ยังเปิดปกติ และมีมาตรการรักษาควาสะอาดป้องกันอย่างดี สามารถมาใช้บริการได้อย่างเดิม .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน