เป็นนางเอกสาวมั่นที่หลายคนยกนิ้วในความกล้าและมั่นใจของ “มารี เบรินเนอร์” โดยเฉพาะเรื่องราวของความรักที่สาวมารีตรงไปตรงมา รักก็บอก เลิกก็ประกาศ ไม่มีกั๊ก
และเพราะความรักก่อนหน้านี้กับนักร้องหนุ่ม “กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” ที่ไม่สมหวัง และเลิกรากันไป จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเหมือนคู่ขนานที่ไม่มีน่าจะบรรจบกันได้ในเร็ว ๆ นี้
และเพราะความรักที่ผ่านมามันพังลงไป ความรักครั้งใหม่ของมารี กับ “พิชญ์ กาไชย” กลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง วันนี้นางเอกคนดังจะเปิดใจกับ “Exclusive Talk ไนน์เอ็นเตอร์เทน” เพื่อบอกเล่าความรักครั้งเก่าที่สอนให้เธอได้รู้จักกับรักครั้งใหม่
“ตัวเราเองเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องของความรัก แต่พอส่วนนี้มันเบรกไป ก็เหมือนกับว่ามีเวลาที่จะมาโฟกัสตัวเองมากกว่า มันไม่เชิงกับว่าสูญเสียความเป็นตัวเอง เรายังเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องของความรักเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้เรามีเวลา ได้มีโอกาสเอาอะไรมาลอง ๆ ที่แต่ก่อนเราไม่ค่อยได้ใส่ใจ มาลองทำ แล้วเรารู้สึกว่ามันมีความสุข”
และเพราะตรงนี้ทำให้มารีจอใช้ความกล้าในตัวเอง ทำในสิ่งที่กล้ามากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง คือการแข่งรถ ซึ่งเป็นกีฬาที่มารีเห็นมานานแล้ว และแบบสนใจมานานแล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสได้ทำ เพราะว่าใครอยู่ดี ๆ ลุกขึ้นมาวันหนึ่ง ตื่นมาจะไปสมัครแข่งรถดีกว่า แต่เพราะรู้จักกับคนที่ชวนไป และรู้สึกว่ามันน่าลอง และเป็นจังหวะชีวิตที่รู้สึกว่า อะไรที่อยากทำ จะทำหมดเลยทุกอย่าง อะไรที่มีโอกาสลองให้หมด ก่อนแก่
“รู้สึกว่าที่ผ่านมาชีวิตเราจะไปโฟกัสเรื่องความรักมาก พอมาถึงวันหนึ่งที่เหมือนเราได้ชีวิตเรากลับมา เป็นแบบที่เราสามารถใช้ได้ โดยที่ไม่มีใครมากำหนด หรือมาคาดหวังอะไรจากเรา เราก็เหมือนว่าฟรีมาก เพื่อนชวนไปไหน ถ้าว่างไปหมดเลย เพราะรู้สึกว่าไม่อยากปฏิเสธอะไร อยากใช้ชีวิตให้คุ้ม ๆ”
จากความรักที่จบไป เมื่อถามมารีว่ากล้าที่จะรักอยู่ไหม ซึ่งนางเอกสุดมั่นตอบชัดว่า กล้า ไม่ได้กลัวความรัก และไม่ได้มองว่าความรักเป็นสิ่งที่น่ากลัว แค่มองว่ามันเป็นจังหวะชีวิต ที่อาจจะผิดหวัง และก็ต้องพักมัน แต่วันหนึ่งพอกลับมาเข้มแข็งใหม่ ก็พร้อมจะเปิดใจ จะปิดใจทำไมให้เสียเวลา เสียโอกาส
“ตอนนี้เราก็เข้มแข็งพอ แต่ก็ต้องเป็นคนที่เรารู้สึกว่าเหมาะสม คือที่ผ่านมาเราจะเป็นแบบคนที่ใช่ก็ใจไปหมด จริง ๆ เราก็ยังคิดเหมือนเดิมคือยังใช้ความรู้สึกนำอยู่แล้วในทุก ๆ เรื่อง มันเปลี่ยนไม่ได้หรอก มันก็คือพื้นฐานของคนเรา แต่ว่าความเหมาะสมหมายถึงว่า ต้องเป็นคนที่ไปด้วยกันได้ และก็ทัศนคติก็ต้องใกล้เคียงกันด้วย รู้สึกว่าโตแล้ว มองหาอะไรที่เป็นไปได้จริง และเป็นไปได้ระยะยาว ซึ่งมันก็ต้องค่อย ๆ ดู เพราะพอรัก เราแบบไปเลย แต่ตอนนี้เราอยากที่จะมีความรักที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ต้องดูดี ๆ คิดดี ๆ และต้องมองเผื่ออนาคตด้วย”
มารียังยอมรับกับ “Exclusive Talk ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ว่าอยากที่จะแต่งงาน คือไม่ได้อยากที่จะจัดงานแต่งงาน แค่ชีวิตนี้อยากมีลูก อยากมีคู่ที่สู้ชีวิตไปด้วยกัน สร้างความทรงจำไปด้วยกัน อยากได้คนที่เราพึ่งเขาได้ และเขาก็พึ่งเราได้ ต้องส่งเสริมกันในทุก ๆ เรื่อง ทั้งในเรื่องของความรู้สึก ความสบายใจ ในเรื่องของหน้าที่การงาน กลุ่มเพื่อน สังคม มันควรจะมีสิ่งที่ดีให้กันและกัน
นี่แหละ…ชีวิตรักในแบบ “มารี เบรินเนอร์” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
