ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าชื่อของ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ถูกยกให้เป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าวที่ฮอตที่สุดใน พ.ศ.นี้ ด้วยฝีมือและคารมในการดำเนินรายการทำให้ได้รับการยอมรับมากที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้
โดย “หนุ่ม กรรชัย” ได้เปิดใจกับ “Exclusive Talk ไนน์เอ็นเตอร์เทน” เมื่อหลายคนยกให้เขาเป็นผู้ประกาศเบอร์หนึ่งในตอนนี้ ซึ่งพิธีกร และผู้ประกาศข่าวเผยว่า ตนยังเป็นน้องใหม่ และไม่ใช่คนที่เป็นคนข่าวตั้งแต่แรก แล้วจะเป็นเบอร์หนึ่งได้ยังไง ในเมื่อยังขอความรู้จากผู้ประกาศข่าวที่ทำงานมาก่อนอย่าง สรยุทธ สุทัศนะจินดา , อริสรา กำธรเจริญ , ภาษิต อภิญญาวาท รวมถึงผู้ประกาศช่อง 3 คนอื่น ๆ ในการอ่านข่าวอยู่ เพราะฉะนั้นตนเป็นเบอร์หนึ่งไม่ได้หรอก ตนแค่เป็นคนที่โชคดีและไม่ละทิ้งโอกาส
“หนุ่ม กรรชัย” เผยว่า คุณอัมพร มาลีนนท์ เป็นผู้มอบโอกาสในการเป็นผู้ประกาศข่าวให้ พร้อมกับคำว่า “ถ้าจะมาทำตรงนี้ต้องมีความรับผิดชอบนะ” ซึ่งตนพยายามหนีมาตลอด เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา จนมานั่งคิดตกตะกอนว่าควรจะทำ เพราะมันเป็นโอกาส โอกาสที่หลายคนอยากที่จะได้ แล้วโอกาสนั้นมาตกที่ตน เหมือนว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลยตัดสินใจทำ
“การเป็นพิธีกร กับการเป็นผู้ประกาศข่าวมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าเกิดเราพูดอะไรที่มันผิดไป หรือข้อมูลเราไม่จริง ข้อมูลเราไม่แน่น ทุกอย่างจะกลายเป็นดาบกลับมาแทงตัวเราเอง”
อีกหนึ่งที่หลายคนตั้งคำถามกับผู้ชายคนนี้ คือการเปลี่ยนจากคาสโนวาตัวพ่อ จากนักแสดงในจอ มาเป็นผู้ประกาศข่าวหน้าจอ ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไร
“เป็นคนที่ตั้งใจจะทำอะไรก็อยากที่จะทำให้มันสุดจริง ๆ อย่างตอนที่เล่นละคร และมาเป็นพิธีกร เราก็เลิกเล่นละครเลย เลิกแบบหักดิบ ติดต่อเข้ามาไม่เล่น ๆ ๆ เอาแต่พิธีกรอย่างเดียว เพราะต้องการให้มันชัด ต้องทำให้คนลืมภาพที่เราเคยเป็นมาก่อน ในส่วนของความน่าเชื่อถือ เรามาแสดงให้คนมาเชื่อถือเราหรือเปล่า มันคงไม่ได้เป็นการแสดง เพียงแต่ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพของเราเองมากกว่า อาชีพอะไรก็ตามแต่ที่คุณไม่ถนัดมันหรือคุณไม่อยากทำมัน แต่วันหนึ่งที่ต้องทำ สิ่งแรกที่คุณต้องทำและคุณต้องมีคือความศรัทธา เรารักในอาชีพทุก ๆ อาชีพที่ทำ ถ้าตัดสินใจทำแล้ว ต้องรักและศรัทธาในสิ่งที่ทำ ถามว่าจะกลับไปเล่นละครไหม คงไม่แล้ว”
หนุ่ม กรรชัย ยังยอมรับอีกว่า การมาเป็นผู้ประกาศข่าว เปลี่ยนชีวิตของเขาไปโดยสิ้นเชิง จากหน้ามือเป็นหลังมือ กลับเปลี่ยนเป็นคนที่มีต้องแบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น ถึงขั้นที่ไม่สบายนอนโรงพยาบาล แต่เพราะรู้ว่ามีแฟนรายการที่รอดูเขาอยู่ ก็ถอดสายน้ำเกลือมาอ่านข่าว
“แรก ๆ รู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบที่หนัก เพราะเมื่อก่อนเราเป็นคนเกเร ถ้าไปถามคนที่ร่วมงานกับเราสมัยก่อนจะรู้เลยว่า เราเป็นคนไปสาย เป็นคนขี้เกียจ แต่พอมาวันนี้วุฒิภาวะของเราโตขึ้น ต้องแบกรับความรับผิดชอบหลาย ๆ อย่าง ทั้งครอบครัว ทีมงาน บริษัท มันหล่อหลอมให้เราโตขึ้น ตอบโจทย์ง่าย ๆ คือความรับผิดชอบที่มนุษย์ พึงควรจะมี”
เพราะทุ่มเทกับหน้าที่ของงานอย่างหนัก แต่ “หนุ่ม กรรชัย” ยังมีหน้าที่ของความเป็นคุณป๊ะป๋าของลูกสาววัย 6 ขวบอย่าง “น้องมายู” อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าด้วยงานที่หนัก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเจอกับลูกสาว แต่ในวันหยุดจะทุ่มเวลาอยู่กับลูกสาวตัวน้อย
“มายูเขาไม่ได้ติดเราเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เขาจะอยู่กับแม่ แม่เขาเป็นคนดูแล และส่วนตัวเราเองไม่เคยวางกรอบว่าลูกจะต้องเป็นอย่างไง เพราะเราไม่สามารถกำหนดชีวิตใครให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้ แม้กระทั่งลูกเราเอง ก็ต้องปล่อยให้เขาเลือกแนวทางเขาเอง เรามีหน้าที่แค่สนับสนุน คน ๆ หนึ่งจะไปเลือก ให้อีกคนหนึ่งเป็นในสิ่งที่เราต้องการไม่ได้ ไม่ใช่แค่ลูก แต่ชีวิตทุกชีวิต เขามีแนวทางในการกำหนดชีวิตของเขาเอง”
แนวคิด ความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ รักและศรัทธา ของผู้ชายคนนี้ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ใครหลายคนอยากเรียนรู้และเดินรอยตามก็เป็นได้ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
