“ดร.เซปิง” ฟ้อง “หนุ่ม กรรชัย” 50 ล้าน ข้อหาหมิ่นประมาท ลั่น! ต้องมาขอโทษผ่านสื่อ

เกิดเป็นเรื่องคดีความขึ้นมา หลัง “ดร.เซปิง ไชยศาสน์” ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพิธีกรคนดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และพวก 6 คน จากกรณีที่พิธีกรหนุ่มได้เป็นผู้ดำเนินรายการโหนกระแส โดยในเทป FACE OF ภาค 2 เปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี มีแขกรับเชิญเป็นผู้เสียหาย 6 คน ที่เคยเข้ารับบริการศัลยกรรมตกแต่ง ที่ ดร.เซปิง เป็นผู้จัดหาให้ มาเข้าร่วมรายการ ซึ่งในช่วงการสัมภาษณ์ทาง ดร.เซปิง มองว่าได้มีการหมิ่นประมาทใส่ความ ทำให้ได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
.
ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ย. 63) พิธีกรคนดัง “หนุ่ม กรรชัย” พร้อมแขกรับเชิญที่เคยเข้าร่วมรายการโหนกระแสหัวข้อ FACE OF ภาค 2 เปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา หลังศาลนัดตรวจหลักฐานในคดีที่ “นางสาว เซปิง ไชยศาส์น” เป็นโจทก์ฟ้อง “นายภูดิท หรือ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง พร้อมพวกรวม 7 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
.
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ที่รายการโหนกระแส หัวข้อ FACE OF ภาค 2 เปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี ซึ่งมีคุณหนุ่ม กรรชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีการเชิญแขกรับเชิญที่เป็นผู้เสียหายที่เคยเข้ารับบริการศัลยกรรมตกแต่ง ที่ ดร.เซปิง เป็นผู้จัดหาให้ มาเข้าร่วมรายการ ซึ่งในช่วงการสัมภาษณ์ในรายการโจทก์มองว่าได้มีการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำให้ได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง
.
โดย นางสาวเซปิง เผยว่า ส่วนตัวรู้สึกมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมด ส่วนตัวถูกทำลายชื่อเสียง และการที่คนเราจะพูดอะไร ข้อเท็จจริงยอมรู้อยู่แก่ใจ ซึ่งการพึ่งอำนาจศาลครั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจว่าความยุติธรรมมีจริง และสังคมต้องได้รู้ข้อเท็จจริง
.
ขณะที่ก่อนหน้า ตนไม่เคยได้เจอหน้าจำเลยทั้ง 7 คนเลย ซึ่งวันนี้อยากเห็นสีหน้า แววตา ความรู้สึก และอยากเห็นการสำนึกว่าการที่ทำร้ายผู้อื่นไปแล้ว ยอมมีความสำนึกอยู่ในใจ อยากฝากถึงจำเลยทั้ง 7 ว่า ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ตนเองถูกทำลายชื่อเสียง และเสียใจมาก ๆ แทบไม่มีความสุขเลย อีกไม่นานนี้ ทุกคนจะได้รู้เมื่อศาลตัดสิน แต่หากจำเลยทั้ง 7 มีการขอไกล่เกลี่ย ตนเองขอพิจารณาอีกครั้งเพราะต้องดูว่าจำเลยทั้ง 7 สำนึกในการกระทำหรือไม่ หากสำนึกผิดก็พร้อมที่จะให้อภัย หากมีการขอโทษก็ต้องขอโทษผ่านสื่อ เพราะตนเองถูกกระทำผ่านสื่อ
.
ด้านนายจำนงค์ ชัยมงคล ทนายความ เผยว่า วันนี้เป็นวันนัดพร้อมคู่ความครั้งแรก จะนัดตรวจหลักฐานรวมถึงจะมีการพิจารณานัดวันสืบพยาน เบื้องต้นค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี ซึ่งฝั่งโจทก์ได้เบิกความในชั้นไต่สวนไปมากแล้ว หากวันนี้จำเลยมาครบทั้ง 7 คน ก็จะมีการสรุปวันนัดสืบพยานได้ ส่วนหลักฐานในทางของกฎหมายมีความมั่นใจ เพราะตรวจสอบแล้วพบว่ามีการพูดในรายการจริง และคำพูดเป็นลักษณะของการใส่ความ หากเป็นเรื่องของการทำดีหรือไม่ดี ทำไม่พูดกันข้างนอก แต่กลับพูดออกรายการให้ประชาชนรับรู้ ซึ่งข้อเท็จจริงที่นำเสนอออกไปยังไม่ได้มีการพิสูจน์ว่าจริงหรือเท็จ แต่ถึงข้อมูลของจำเลยจะเป็นข้อเท็จจริง ก็ยังถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท แต่ฝั่งโจทก์ยืนยันว่าข้อมูลค่อนข้างมีหลักฐานและยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งทางแพ่งยังมีการต่อสู้กันหลายคดี โดย นางสาวเซปิง ได้เรียกค่าเสียหายไปกว่า 50 ล้านบาท


.

ส่วนทางด้าน “หนุ่ม กรรชัย” เผยว่า หลังเข้ารับฟังการพิจารณาคดีของศาลว่า วันนี้เนื่องจากจำเลยบางคนไม่สามารถตามมาตามนัดศาลได้ โดยมี 1 คนสถานการณ์ covid อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกคนไม่ได้รับหมายเรียกจากศาล ศาลจึงนัดเพื่อนมาอีกครั้งในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564
.
หนุ่ม กรรชัย ยังยอมรับด้วยว่า ศาลอยากให้เคสนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ซึ่งแล้วแต่ดุลพินิจและโจทก์คือดร.เซปิง ซึ่งวันนี้เจอหน้ากัน ตนยกมือไหว้แต่ไม่ได้พูดคุยกัน พร้อมย้ำว่ารายการโหนกระแสเป็นรายการที่ทำเพื่อประชาชนเมื่อมีผู้เสียหายมาร้องเรียนก็เปิดพื้นที่ให้ ขณะเดียวกันในรายการก็พูดเสมอว่าให้คู่กรณีออกรายการเพื่อความเป็นธรรม
.
ส่วนกรณีที่ดร.เซปิง ระบุว่าพร้อมที่จะให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยหนุ่มกรรชัยต้องขอโทษผ่านสื่อ และอยากเห็นแววตาที่แสดงความสำนึกผิดนั้น ตนย้ำว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้กระทำการหมิ่นประมาท ส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ยังไม่มีเหตุจำเป็น แล้วอยากให้ดูบริบทในรายการวันนั้นด้วย เรื่องขอโทษหากทำผิดก็พร้อมขอโทษอยู่แล้วแต่ในมุมมองของตนนั้นรู้สึกว่าไม่ได้เข้าข่ายหมิ่นประมาทแต่อย่างใด


เข้าชม 727 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม