ตอนนี้ถ้าพูดถึงความฮอตไม่มีใครเกิน เน็ตไอดอลสาวมากความสามารถ “หยาดพิรุณ ปู่หลุน” สาวที่ปลุกบทเพลงฮิตในอดีตให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเปิดวลีเด็ดอย่าง “ล่ะแมะ ล่ะแมะ , อะหรือ อะหรือว่า, ว่าซั่น” ให้ปังทั่วบ้านทั่วเมือง
วันนี้หนูเผือกได้ฤกษ์ดีคว้าตัวสาวฮอตคนนี้มา Exclusive Talk เปิดความสดใสให้แฟน ๆ ได้รู้จักเธอคนนี้กัน ทันทีที่สบตาเจอกัน ความสดใสของหยาดพิรุณก็พุ่งตรงเข้าหาหนูเผือกทันที
อ่ะนะ อ่ะนะ มาเริ่มกันเลยจ้า หนูเผือกไม่รอช้า ถามตรงตอบตรงกับ หยาดพิรุณทันทีที่ว่า วันนี้ได้สัมผัสกับความดัง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม เริ่มคำถามมาเครียดเลย แต่คนสดใสอย่างหนูหยาดกับตอบหนูเผือกด้วยท่าทียิ้มแย้มว่า ตัวตนของตัวเองไม่เคยที่จะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องของเวลางานการทำงานมากกว่า จากนั้นหยาดก็เล่าให้หนูเผือกฟังต่อว่า เมื่อก่อนทำพิธีกรตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ วันหนึ่งก็จะประมาณ 1-2 งาน แต่ ณ วันนี้ ต้องย้ายจากเชียงใหม่มาอยู่ กทม. เต็ม แล้วทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด วันหนึ่งทำ 3-4 งาน สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องของเวลาการทำงาน และการพักผ่อนมากกว่า
“ตอนนี้คนอาจจะบอกว่าหยาดอยู่กลางสปอร์ตไลท์แล้ว แต่ถึงยังไงหยาดก็ยังหยาดอย่างนี้อยู่ เราเองรู้ว่าอันไหนควรทำไม่ควรทำ อย่างการเข้าหาผู้ใหญ่ก็ต้องมีเรื่องของสัมมาคารวะ หรือการวางตัวที่เหมาะสม อยู่กับเพื่อนก็เต็มที่ เอ็นจอย เราเองไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้เท่าไหร่ ตอนนี้ปัญหาที่เรากังวลคือเรื่องของสุขภาพมากกว่า เพราะเราไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เพราะเป็นคนเหนื่อยง่าย ถึงเราจะดูเป็นคนอะเลิร์ท พลังงานก็หายไปกับความอะเลิร์ทของเรา พอกลับบ้านไปก็จะหมดพลัง”
จากนั้นก็พูดคุยกันต่อว่า หนูเผือกถามหยาดพิรุณอีกว่าอยู่ในที่สาธารณะหยาดพิรุณดูเป็นคนสดใสตลอดเวลา เวลาส่วนตัวล่ะเป็นยังไง หยาดพิรุณด้วยอาารมณ์ขันว่า เวลาอยู่ก็เป็นแบบนี้ อยู่กับเพื่อนก็เป็นแบบนี้ เป็นคนไม่ค่อยนอยด์ ไม่ค่อยเป็นคนคิดมาก สิ่งที่ทำให้คิดในแต่ละวันจะเป็นเรื่องของการทำงาน อย่างช่วงว่างก็จะหากิจกรรมต่าง ๆ ทำกับเพื่อน ไปเที่ยว ไปถ่ายรูป แต่พอตอนนี้ทำงานเยอะ เพื่อน ๆ ก็มีน้อยใจบ้าง (หัวเราะ) แต่ก็พยายามจัดสรรเวลา คือถ้าว่าง หรือมีโอกาสไปถ่ายงานในที่ ๆ สวย ๆ หรือ ไปเที่ยวได้ ก็จะชวนเพื่อนไปด้วย ซึ่งเพื่อนก็เข้าใจ ไม่ค่อยมีใครมีปัญหาอะไร
“เรื่องความเครียดของหยาดจะเป็นเรื่องของงานมากกว่า พอเป็นเรื่องงานเราจะต้องโน้ตไว้เลย และต้องแผนให้เป๊ะ เพราะความผิดพลาดจะส่งผลกระทบต่อคนอีกหลายคน คนถามเราเยอะว่ามีเรื่องเครียดไหม คนทุกคนมีเรื่องเครียด แต่มันอยู่ที่เราจัดการ เพราะถ้าเรายิ่งเครียดกับมันอีก มันก็ยิ่งแย่ เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีจัดการ เรื่องที่เราเครียดให้จบเท่านั้นเอง”
ถึงจะดูเป็นสนุก เฮฮา แต่หยาดพิรุณก็มีมุมที่ให้สร้างความประทับใจให้กับหนูเผือกในเรื่องของทัศคติ โดยหยาดพิรุณบอกกับหนูเผือกว่า เธอมีคติที่ยึดไว้ประจำใจอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกเป็นคติที่ใช้กับงานและการใช้ชีวิตคือ “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” และอีกข้อใช้ในเรื่องของความสัมพันธ์ คือ “be kind to one another” ให้คิดดีทำดีกับคนอื่น แล้วเขาจะคิดดีทำดีกับเรา แค่นั้นชีวิตก็น่าจะมีความสุขแล้ว
หยาดพิรุณยังบอกอีกว่าคำว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ทำให้เธอมีวันนี้ แต่ไม่ใช่ว่าวันนี้เธอประสบความสำเร็จแล้ว แค่เป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่าง ที่อยากจะทำ หยาดเล่าแบบยิ้มน้อย ๆ ว่า เธอเหมือนเด็กที่อยากมีสิ่งนั้น อยากทำสิ่งนี้ ทำไปเรื่อย ๆ พอได้จุดหนึ่ง ก็แฮปปี้มีความสุข แล้วก็เริ่มต้นทำสิ่งใหม่เรื่อย ๆ ไม่หยุด ชีวิตจะได้มีสีสัน งานนี้หยาดพิรุณยังฝากถึงแฟน ๆ ที่ติดตามและชื่นชอบ และเห็นเธอเป็นไอดอลว่า “อยากบอกว่าใครที่อยากทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรืออยากได้อะไร ก็พยายามเต็มที่ อย่างที่บอก ความพยายามอยู่ไหน เดี๋ยวความสำเร็จก็มา แต่ในความพยายามของเรา ก็ต้องรู้ว่าความพยายามนี้เป็นความพยายามที่ดี ไม่ได้เป็นความพยายามเพื่อไปตบตีแย่งชิงกับใครมา พยายามในสิ่งที่ดี รู้หน้าที่ของตัวเอง พยายามเต็มที่กับมันเท่านั้นเอง บางคนกลัว ไม่กล้า อย่างคนมาถามหยาดเยอะเรื่องของภาษาอังกฤษ ทำยังไงถึงเก่งภาษาอังกฤษ หนูไม่กล้าพูด ต้องทำยังไง ในเรื่องของภาษา ถ้าเราอยากเก่งด้านไหน ก็ต้องทำอันนั้น อยากพูดเก่งก็ฝึกพูดให้บ่อย อยากฟังรู้เรื่องก็ต้องฟัง อยากเขียนได้ก็ต้องฝึกเขียน ทุกอย่างมันอยู่ที่การฝึกฝน มันใช้ได้กับทุก ๆ เรื่องเลย ร้องเก่งก็ต้องฝึกร้องเพลง ความพยายามที่ทำไม่มีทางเสียเปล่าแน่นอน”
จบการสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว หนูเผือกรู้สึกได้รับพลัง แต่ไม่ใช่แค่พลังความสดใสที่หยาดพิรุณส่งต่อมาเท่านั้น แต่ทัศคติของเธอคนนี้ยังทำให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ มีกำลังใจที่จะสู้เดินต่อไป.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
