เรียกว่าเป็นมรสุมลูกใหญ่ทำครอบครัวพังไปแล้ว หลังสาว “ติ๊ก กนิษฐรินทร์” ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนักแสดง “หนุ่ม ศรราม” ยอมรับว่าติดการพนัน แอบยักยอกเงินอดีตสามีไปใช้หนี้โดยไม่บอก แถมรับเงินค่าตัวของฝ่ายชายมาใช้จนหมดแบบเงียบ ๆ จนถึงจุดทนไม่ไหวตัดสินใจเซ็นใบหย่า ซึ่งอดีตสามีเปิดใจว่าบ้านแตกเจ็บกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะลูกสาวที่อาจจะได้รับผลกระทบ ย้ำให้อดีตภรรยาปรับปรุงตัวถึงจะเปิดโอกาสให้ได้เจอหน้า “น้องวีจิ” ลูกสาว
.
ล่าสุดวันนี้(11 ก.ย. 2563) “ติ๊ก” มาเปิดใจหมดเปลือกอีกครั้งในรายการคุยแซ่บโชว์ โดยปล่อยโฮตลอดการให้สัมภาษณ์ ว่า ตอนนี้ออกจากบ้านมาได้ 15 วันแล้ว ความรู้สึกมันเหมือนนั่งนับวันคืน แต่ละคืนผ่านไปยากมาก ไม่สามารถดูรูปลูกในอินสตาแกรมได้เลย ความรู้สึกคือมีลูกแต่เหมือนไม่มีลูก พยายามกลับบ้านไปขอพี่หนุ่มเจอลูก ถามทำไมถึงเจอลูกไม่ได้ เขาก็บอกว่าให้เจอวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ได้ไหม แต่เดี๋ยวก็กลับไปกลับมา เดี๋ยวเจอได้ เดี๋ยวเจอไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยไม่รู้เลย เขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ใจเราก็เฝ้ารอทุกวันทุกคืน
.
จนตัดสินใจกลับไปที่บ้าน รู้ว่าพี่หนุ่มไม่อยู่บ้าน มั่นใจว่าจะได้เจอลูก แต่ก็ไม่ได้เจอ เราก็กดกริ่งตามมารยาทแล้ว กดรัว ๆ ก็ไม่มีคนเปิดประตูบ้านให้ อยากได้เจอลูกก่อนที่พี่หนุ่มจะกลับบ้านมาเจอ ทั้งเคาะประตูและตะโกน ตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มสติแตก แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเปิดประตูให้ รู้ว่ามีคนอยู่บ้านด้วย และตำรวจมา ซึ่งตำรวจบอกเจ้าของบ้านเป็นคนโทรแจ้ง เราก็บอกตำรวจว่าเป็นแม่ที่อยากเจอลูก ตำรวจก็บอกเข้าใจ แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่ มันเป็นเวลายามวิกาลและแนะนำให้มาหาลูกตอนกลางวัน
.
จากนั้นวันเสาร์ก็ตัดสินใจไปหาลูกตอนกลางวัน แต่ก็ไม่ได้เจอ เพราะพี่หนุ่มอยู่บ้าน จึงโทรหาพี่เลี้ยง เพราะไม่ไหวแล้ว อยากเจอลูกมาก สุดท้ายพี่หนุ่มก็อุ้มลูกมาหา แต่ได้เจอเพียงไม่ถึง 2 นาที จับลูกก็ไม่ได้ ใจคืออยากจะเอากลอนประตูออกไปเลย จนพี่หนุ่มบอกให้กลับไป ไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจจับ จากนั้นเราก็นั่งคุกเข่า ขออุ้มหน่อย ขอกอดหน่อยก็ได้ แล้วเราก็ออกไป
.
ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยไปนั่งเคลียร์กันแล้วที่วัด ตั้งใจจะพูดความจริงทุกอย่างแต่พี่หนุ่มไม่รับฟังสักอย่าง ยอมรับเราพูดไม่หมด บางอย่างโกหกจริง แต่สาเหตุที่ออกจากบ้านคิดว่าเป็นเพราะเงินมัดจำคอนเสิร์ต เราทำแบบนั้นจริง ส่วนการที่เรายอมรับไม่ใช่เอาตัวรอดหรือหนีความผิด เพราะในชีวิตเราไม่มีใครดีเท่าพี่หนุ่มแล้ว แต่เรายังไม่มีโอกาสพูด วันนั้นร้องไห้อย่างเดียว
.
เรื่องพี่หนุ่มให้เงินใช้ 300 -500 บาท อันนี้เรายังอธิบายไม่หมด ช่วงแรกที่เดินเข้ามาในชีวิตพี่หนุ่ม พี่เขาไม่ได้มีงานปังเท่าตอนนี้ แต่ต่อให้กัดก้อนเกลือกินเราก็อยู่ได้ แรก ๆ มีให้ 300 บ้าง 500 บ้าง ต่อวันในช่วงแรก แต่เวลาเขามีมากก็ให้มาก ให้เงินหมื่นต่อเดือนก็มี ส่วนได้เงิน 3 หมื่น คือตั้งแต่มาอยู่บ้านพี่หนุ่ม ประมาณ 6-8 เดือน บางเดือนเขาให้มากกว่า 3 หมื่นก็มี แต่หลัง ๆ หนี้เก่าที่ยังมี เราเลยเอาเงินเดือนนี้ไปผ่อน และช่วงโควิด เพื่อนรวมตัวกันมาทวงเงินพร้อมกัน
.
เรามาอยู่กับเขาด้วยใจไม่อยากเอาภาระเราไปให้ทั้งหมด เลยไม่ได้บอกหนี้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าหนี้สินทั้งหมดที่เหลืออยู่ประมาณ 2.5 – 3.5 ล้านบาท ส่วนทองของลูกยังอยู่เราเอาไปจำนำ แล้วก็ไถ่คืนมาแล้ว แต่บอกไม่ได้จริง ๆ ว่าทองอยู่ที่ไหน ที่เราเก็บทองไว้เพราะคิดว่าเรามีสิทธิ์ที่จะเก็บของลูกได้ ส่วนล็อกเก็ตเราไม่ได้ขายแน่นอน
.
เคยคิดถึงขั้นไม่อยากอยู่บนโลกนี้ไหม “เป็นค่ะ วันที่เดินออกมา ไม่มีบ้าน ไม่มีลูก ไม่เจอใครสักคน แล้วตอนนี้อยู่คนเดียว กักตัวเองในห้องสี่เหลี่ยมไม่ออกไปไหน เราอยากกลับไปอยู่ตรงนั้นเพราะลูก ความเป็นเมียเป็นไม่ได้ เราเคารพการตัดสินใจของพี่หนุ่ม แต่ความเป็นแม่ ขอให้หนูเป็นเถอะ เราพยายามปรับปรุง แต่พี่หนุ่มต้องใจเย็น ๆ เราอยากยืนด้วยตัวเองและทำให้เห็นว่าเราเปลี่ยนแล้ว”
.
อยากฝากบอกพี่หนุ่ม “พูดคำขอโทษมาบ่อยมาก ที่ต้องมาออกรายการเพราะรู้ว่าพี่กำลังดูอยู่ จะบอกว่าหนูขอโทษจริง ๆ (ยกมือไหว้) สำนึกผิด บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่าจะไม่มีทางกลับมาทำแบบนี้อีกแน่นอน เพราะมันจะทำให้หนูไม่เจอลูกอีกเลย หนูอาจจะเป็นมียที่ดีไม่ได้ แต่เห็นใจความเป็นแม่ของเราเถอะ ให้ได้เจอหน้าลูกเร็ว ๆ ครั้งเดียวต่อเดือนก็ได้ ถึงแม่อาจจะเป็นแม่ที่ไม่ดีในสายพ่อและวีจิ แต่ในความเป็นแม่ที่ดูแลลูกมา ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจ ไม่อยากให้ลูกอายคนอื่น มีแม่ทำผิดพลาดเรื่องการพนัน ส่วนเรื่องมีคนเสนอเงินให้ 1 แสนอันนี้จริง เพื่อแลกกับการมีอะไรด้วย แต่เราปฎิเสธบอกว่าขอรับแต่งานสะอาด.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
รูป : คุยแซ่บโชว์