เมื่อก้าวเข้าสู่ความสูงวัย ร่างกายที่เปลี่ยนไป อาจถูกมองด้วยแววตาที่ต่างไป
หลายครอบครัวมองว่าปู่ย่าตายายเป็นคนต่างวัยที่เข้าใจยาก
และไม่รู้จะพูดคุยกันได้รู้เรื่องหรือไม่ วันนี้ (4 ส.ค.2561) คุณเก้า-วรเกียรติ
นิ่มมาก เจ้าของเพจ ตายายสอนหลาน
เปิดเผยในรายการ Young
เก๋า ถึงจุดเริ่มต้นของการเปิดเพจว่า
คลิปที่เป็นจุดเริ่มต้นถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ตอนที่ว่างงานและกลับบ้านที่ปัตตานีกับคุณแม่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ และด้วยความสนิทกับคุณตาคุณยาย ก็เลยคิดว่า ลองทำเพจสอนภาษาใต้
เพราะยังไม่เห็นมีใครทำ ยิ่งถ้าเป็นคนสูงอายุมาสอน ก็ดูน่ารักดี
จึงได้ถ่ายคลิปสอนภาษาใต้ง่าย ๆ
แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้กลับปัตตานีบ่อย ๆ ก็คิดต่อไปว่า
ถ้าเพจมีคนติดตามเยอะ ๆ ก็ต้องมีหลายคอนเทนต์ จึงถ่ายเก็บไว้หลาย ๆ เรื่อง
และคิดต่อไปอีกว่า ใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว ก็อัดเรื่องวันวาเลนไทน์ไว้ด้วย พอมาถึง
กทม.ก็ลองตัดคลิป โพสต์ลงวันวาเลนไทน์ ปรากฏว่า มีคนชอบ กดถูกใจ
และแชร์ต่อไปจำนวนมาก ก็ตกใจ
“ตอนแรกที่ทำเพจมาก็มีคนกดถูกใจแค่
100 หรือ 200 มีคนเข้ามาดูคลิปสอนภาษาประมาณ 1 หรือ 2 พัน ก็คิดว่า คนคงไม่ชอบ
หรือเราอาจทำไม่ดี ก็จะเลิกทำแล้ว แต่ไหน ๆ ก็ถ่ายวันวาเลนไทน์ไว้แล้ว ตัดคลิปวันสาเลนไทน์ลงเป็นคลิปส่งท้าย
แต่พอลงไป ก็มีคนเข้ามา เพื่อน ๆ ก็แชร์ไป ประมาณชั่วโมงเดียวผ่านไปยอดพุ่งเป็นแสน
คืนเดียวผ่านไปเป็นสองล้าน เราก็โทรศัพท์ไปบอกตากับยายว่าคนเข้ามาดูเป็นล้านเลย
ตายายก็ตกใจ”
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนสนใจเข้ามาดูคลิปวันวาเลนไลน์จำนวนมาก
คุณเก้า อธิบายว่า ตอนที่ดูกันเอง ก็รู้สึกว่าน่ารักดี
แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะดังขนาดนี้
ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นช่วงเวลาพอดีที่โพสต์ไปตอนวันที่ 11 ก.พ. และเชื่อว่าที่ถูกใจหลาย
ๆ คนนอกจากความน่ารักของตากับยายแล้ว น่าจะเป็นประโยคสุดท้าย ที่โพสต์ไปว่า
วาเลนไทน์ปีนี้ พร้อมจะแก่ไปด้วยกันไหม คนก็จะส่งไปหาคนที่รัก บอกย้ำว่า
ต้องดูคลิปให้จบถึงประโยคสุดท้ายที่ว่านั้น
คุณเก้าเล่าถึงการถ่ายทำ ว่า
หลายคนอาจคิดว่าการถ่ายคลิปกับคุณตาคุณยายอาจจะยาก แต่จริง ๆ แล้วง่ายมาก
เพราะคุณตาคุณยายให้ความร่วมมืออย่างดี และรู้สึกสนุกไปด้วย
ซึ่งเราก็ถามและคุยกับเขาไปตามปกติ จะเห็นได้ว่า ในคลิปจะไม่ใช้คำทางการ
แต่จะเป็นการพูดคุยเหมือนปกติ บางครั้งที่ตากัยยายตอบไม่ตรงกัน ก็กลายเป็นเรื่องขำ
ๆ สนุก ๆ ไป
เมื่อถามถึงการพูดคุยกันของคนต่างวัย
คุณเก้า อธิบายว่า โดยพื้นฐานครอบครัวของเรามีความสนิทกันอยู่แล้ว
และถูกเลี้ยงดูมาในแบบที่เปิดเผยในการแสดงความรักกับทุกคนในครอบครัวโดยไม่อายใคร
จะรู้สึกว่าคนในครอบครัวคือคนที่คุยด้วยได้อย่างสบายใจ และได้กลับไปหาตายายที่ปัตตานีเสมอ
ก็จะพูดคุย ปรึกษาเรื่องต่าง ๆ ตายายก็เป็นคนใจดี
แต่ถ้าถามว่า จะทำยังไงกับการพูดคุยของคนต่างวัย
ก็คงต้องให้ทั้งเราที่ต้องเห็นความสำคัญของปู่ย่าตายาย
และเขาก็เห็นความสำคัญของเรา มีอะไรก็คุยกัน การใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศและความใกล้ชิดเกิดขึ้นได้ระหว่างคนต่างวัย
“ตอนแรกที่คิดทำเพจ ก็แค่คิดว่า
อยากให้ทุกคนได้รู้ภาษาใต้ และเห็นความน่ารักของตากับยาย
แต่พอทำแล้วมันมากกว่าที่คิด คือ มีคนรักตายายเรามากขึ้น และที่ดีใจไปกว่านั้น คือ
ตายายของเรามีความสุขมากขึ้น เขาได้เห็นตัวเองในทีวี มีหลายช่องนำไปออกอากาศ
ได้เห็นตัวเองทำอะไรแปลก ๆ เขาก็ยิ่งสนุก
และทำให้เขาแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อสุขภาพจิตดี ร่างกายก็แข็งแรง
และที่สำคัญเราก็ได้กลับไปเจอตายายบ่อยขึ้น รวมถึงความรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น
ขณะตัดคลิป คุณตาคุณยายก็จะสลับกันมาเดินดู
นั่งดูอยู่ข้างหลัง และนั่งหัวเราะอย่างมีความสุข
ยิ่งถ้าเราอัพเดทว่ายอดคนดูเพิ่มขึ้น ก็จะตื่นเต้นและมีความสุขมากขึ้น”
เมื่อถามถึงยอดคนติดตามที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
คุณเก้า ยอมรับว่า เกิดความคาดหมายมาก ๆ เพราะมันก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นไปถึงหลักแสน
ก็ทำให้เรามีแรงที่จะทำเพจต่อไป ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าน่ารัก
และทำให้คิดถึงตายายตัวเอง อยากกลับไปหาบ้าง
“อย่าพยายามมองว่า ผู้ใหญ่ คือ
บุคคลที่น่าเกรงขาม แตะต้องไม่ได้ เหมือนบางคนจะมองว่า ตากับยายควรอยู่บนหิ้ง
ต้องกราบไหว้ตลอดเวลา แต่จริง ๆ แล้วถ้าเรามองว่า เขาเป็นคนในครอบครัวที่ปรึกษาได้เหมือนพ่อแม่
ก็จะทำให้เราสนิทมากขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อย ๆ
ผมเชื่อว่าจะทำให้คนต่างวัยได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น เรารักพ่อแม่ยังไง
เราก็รักตายายแบบนั้น”
คุณเก้า
ทิ้งท้ายถึงข้อควรระวังสำหรับการทำเพจว่า อย่าพยายามยัดเยียดหรือใส่เนื้อหาที่ห่างไกลตัวผู้สูงวัย
รวมถึงต้องดูว่า เขามีความสุขกับการทำหรือไม่
นั่นคือสิ่งสำคัญ
อย่าให้การทำเพจเป็นการทำงาน
แต่ให้การทำเพจเป็นการเล่นสนุก ๆ และใช้เวลาด้วยกัน