1. เจ็บหน้าอก ถือเป็นอาการสำคัญ
อาจเข้าสู่ภาวะหัวใจวาย หรือโรคหัวใจ ลิ่มเลือดอุดตัน
โดยเฉพาะหากมีอาการมีเหงื่อออกมาก แน่นหน้าอก หายใจขัด และคลื่นไส้
อาการเจ็บร้าวไปถึงหลัง กรามเกร็ง ร่วมด้วย ต้องไปพบแพทย์โดยด่วน
2. ปวดศีรษะอย่างรุนแรงอย่างเฉียบพลัน
โดยหาสาเหตุไม่ได้และปวดเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่ออาการเส้นเลือดสมองแตก หรือโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
3. อาการสับสนเฉียบพลัน
ไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ บุคลิกเปลี่ยนไปอย่างมากและเฉียบพลัน
อาจจะบ่งบอกว่าเข้าข่ายเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เลือดออกในสมอง หรือเส้นเลือดในสมองอักเสบ
หรืออาจจะเป็นเพียงภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะร่างกายขาดน้ำ หรือการติดเชื้อ
4. น้ำหนักลดลงฮวบฮาบ
ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยไร้สาเหตุ อาจจะเป็นอาการของโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า หรือปัญหาเรื่องต่อมฮอร์โมน
5. มองเห็นเป็นดวงไฟแว่บ
ๆ อาจเป็นอาการบ่งบอกว่า จอประสาทตาหลุด ลอก อาจจะทำให้ตาบอดถาวรได้อย่างรวดเร็ว
6. อาการดื้อไข้
เป็นไข้แล้วไข้ไม่ลด
แต่อาจจะร้ายแรงเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และหากไข้สูงต้องรีบพบแพทย์ทันที
7. อาการหายใจขัด
หากเกิดเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการหอบ และมีไข้ร่วมด้วย ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
เพราะอาจมาจากสาเหตุลิ่มเลือดอุดตันหรือโรคทางปอด ซึ่งอันตรายมาก
8. อาการขาบวม คือมีน้ำหรือของเหลวสะสมที่ขา
ซึ่งเป็นอาการของโรคหัวใจวาย ไทรอยด์
และหากมีอาการเจ็บที่ด้านหลังขาส่วนล่างร่วมด้วย
9. อาการปวดท้องรุนแรงหรือเฉียบพลัน อาการบ่งบอกว่า
เส้นเลือดใหญ่ในท้องโป่งตัวหรือมีปัญหาเรื่องการหมุนเวียนโลหิต
โดยอาการดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นบริเวณท้องระดับสะดือ หากมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย
มักบ่งบอกว่าเป็นโรคนิ่ว
10. อาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง
อาจจะบ่งบอกว่าเป็นโรคมะเร็งมดลูก โรคระบบทางเดินอาหาร โรคไทรอยด์ต่ำ โลหิตจาง
หรือโรคซึมเศร้า
11. อาการปวดกระดูกเชิงกราน
หากปวดแบบแปลบ ๆ แบบเฉียบพลัน ให้ปรึกษาแพทย์ได้ทันที
เพราะอาจจะเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบ ติดเชื้อที่ไต หรือหากเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น
ล้ม อาจบอกได้ว่า กระดูกเชิงกรานหัก
12. ปัสสาวะบ่อย
อาจจะบ่งบอกว่า มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ
แม้ไม่ใช่มะเร็งก็ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
