พระเอกนักบู๊ “จา พนม” ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงโกอินเตอร์อย่างเต็มภาคภูมิ ในงานเปิดตัวภาพยนตร์แอคชั่นฟอร์มยักษ์สัญชาติไทยเรื่อง “คู่ซัดอันตราย Skin Trade” ของ ผกก.เอกชัย เอื้อครองธรรม ที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงแอ๊คชั่นชื่อดังระดับโลก “ดอล์ฟ ลันด์เกรน” และ นางเอกสาวจากฮ่องกง “เซเลน่า เจด” ที่ถือเป็นหนังโปรดักชั่นระดับอินเตอร์ โดยพร้อมเข้าฉายในไทยวันที่ 23 เมษายนนี้และยังมีคนติดต่อไปฉายในหลายประเทศแล้วด้วยค่ะ
ซึ่งนอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ “จา พนม” ยังกลายเป็นนักแสดงเนื้อหอม เพราะกำลังจะมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ Fast&Furious7 รวมถึงหนังฮ่องกงเรื่อง SPL II ที่กำลังจะเข้าฉายไม่พอ เค้ายังกำลังพิจารณาบทหนังเรื่องอื่นๆ อยู่อีกด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะนักแสดงอิสระ แต่จะมีคนคอยดูแลเรื่องงานโกอินเตอร์ให้ค่ะ ส่วนเรื่องที่ตนฉีกสัญญาอดีตต้นสังกัดสหมงคลฟิล์มเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อไต่เต้าไปรับงานโกอินเตอร์ พระเอกนักบู๊ไม่ขอพูดถึง บอกเพียงว่าความสำเร็จในไทยถือเป็นบันไดอีกขั้นที่ทำให้ตนมีวันนี้
แม้จาจะไม่อยากเอ่ยปาก แต่ล่าสุดไนน์เอ็นเตอร์เทนได้รับแจ้งว่า เสี่ยเจียง บอสใหญ่แห่งสหมงคลฟิล์ม ได้ให้ทนายความดำเนินการยื่นฟ้องจา พนม // บริษัทยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัทบริษัทยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา พร้อมเรียกค่าเสียหายถึง 1,600 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีจากกรณีที่ ได้ผิดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์มที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566
โดยหลังจากมีการไต่สวนแล้ว ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ในเมืองไทย จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี แต่หากโรงภาพยนตร์ใด ที่ต้องการฉายหนังเรื่องนี้ สามารถไปเจรจากับสหมงคลฟิล์มได้