แม้ตลาดซื้อขายหนังที่ฮ่องกง หรือ Hong Kong FILMART จะได้ชื่อว่าเป็นตลาดซื้อขายหนังนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย แต่ปีนี้กลับมีค่ายหนังจากประเทศไทยไปเปิดบูธเจรจาซื้อขายหนังน้อยกว่าปีที่ผ่านๆ มา
อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร ผู้บริหารค่ายไฟว์สตาร์ หนึ่งในค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของไทยที่หอบผลงานมาขายที่นี่ทุกปีเล่าว่า หนังไทยยังคงเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ซื้อจากจีน รายเดิมๆ จะต้องมาซื้อหนังใหม่ของไฟว์สตาร์ทุกปี เช่นเดียวกับผู้ซื้อรายใหม่ที่ให้ความสนใจหนังไทยมากขึ้นด้วย ซึ่งเหตุผลหลักก็เพราะหนังไทยมีมาตรฐานระดับสากล แม้จะพูดภาษาไทย แต่ผู้ชมต่างชาติก็เข้าใจได้ง่าย ที่สำคัญความโดดเด่นของหนังไทยยังทำให้ค่ายหนังต่างชาติสนใจมาร่วมทุนผลิตด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งเรื่องเนื้อหา และสัดส่วนนักแสดงแต่ละประเทศ แต่ปัญหาใหญ่สำหรับค่ายหนังไทยก็คือต้องเร่งสร้างหนังป้อนตลาดภายในประเทศจนไม่มีเวลาพอจะหารือกับค่ายหนังต่างชาติที่มาร่วมทุนด้วยอย่างจริงจังซะที
ฟากกองกิจการภาพยนตร์และวีดีทัศน์ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มาเปิดบูธสร้างแรงจูงใจให้คนทำหนังนานาชาติสนใจใช้เมืองไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำมากขี้น ก็เผยว่า การที่หนังไทยได้ไปฉายในต่างประเทศ มีส่วนช่วยดึงดูดให้ค่ายหนังต่างชาติอยากเข้ามาใช้สถานที่ถ่ายทำหนัง, ละคร, โฆษณา, สารคดี รวมถึงสื่ออื่นๆ ในบ้านเรามากขึ้น ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีผู้ผลิตถึง 721 บริษัท จากหลายสิบประเทศเดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทย สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศสูงเกินคาดถึงกว่า 3,800 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมหนังไทยยังมีโอกาสที่จะพัฒนาและทำเงินเข้าประเทศได้อีกมาก ซึ่งนอกจากการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ ด้วยการช่วยประชาสัมพันธ์ในเวทีนานาชาติแล้ว คนไทยยังสามารถช่วยเหลือได้อีกทางหนึ่งด้วยการซื้อดีวีดีหนังถูกลิขสิทธิ์ และเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้ความร่วมมือกับบรรดาโปรดักชั่นต่างชาติที่เข้ามาถ่ายทำในสถานที่ต่างๆ ในบ้านเรา