เชน – เอก – บี้ ขอบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙

เชน – เอก – บี้ ขอบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙

ในช่วงเวลาแห่งความวิปโยคตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เราได้เห็นน้ำใจคนไทยที่หันมาทำความดีเพื่อแสดงความสำนีกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการบรรพชาอุปสมบทที่ชายไทยนับไม่ถ้วนตั้งใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


ทันที่ทราบข่าวในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต นักร้องนักแสดงดัง “เชน ธนา” ก็ตัดสินใจเลื่อนงานแต่งงาน ที่เดิมจะจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ออกไปเป็นวันที่ 14 มกราคมปีหน้า และตั้งใจจะทำความดีเพื่อพ่อหลวงในสิ่งที่ลูกผู้ชายสามารถทำได้ นั่นคือเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งถือเป็นการบวชครั้งที่ 2 ในชีวิต ขณะที่ครอบครัวและว่าที่เจ้าสาวก็ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย  พระเชนได้ฉายาทางธรรมว่า "ธนลาโภ" แปลว่า "ผู้ได้อริยทรัพย์เป็นเครื่องดำเนินชีวิต” โดยจะอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์เป็นเวลา 14 วัน
    
ด้าน "เอก สุดเขต" นักร้องนำวงซีซั่นไฟว์ ก็เผยว่าตลอดระยะเวลา 15 วันที่ได้ศึกษาพระธรรมใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ซึ่งตนตั้งใจบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก นั้นมีความปลื้มปิติเป็นอย่างมากที่ได้เห็นชายไทยทุกช่วงอายุร่วมกันแสดงความจงรักภักดีด้วยการบวช ซึ่งถือว่าบุญกุศลมากขณะเดียวกันธรรมะก็ช่วยคลายความโศกเศร้า และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีสติต่อไปได้
    
เช่นเดียวกับพ่อลูกอ่อน “บี้-ธรรศภาคย์” ที่เพิ่งลาสิกขาบทเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังบวชทดแทนคุณบิดามารดาเป็นเวลา 30วัน และบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่ออีก 15 วัน ก็เผยว่าตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมเป็นต้นมาตนก็ตั้งใจสวดมนต์ ทำสมาธิอุทิศถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9

บี้ ธรรศภาคย์ ยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะน้อมนำคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และจะสอนลูกสาวตัวน้อย “น้องเป่าเปา” ให้เติบโตมาเป็นเด็กดีของครอบครัวและสังคม ก่อนวอนให้คนไทยรักและสามัคคีกันเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช


นักร้องนักแสดงลูกครึ่งไต้หวันยังเผยอีกว่าตั้งแต่เขาย้ายถิ่นฐานจากไต้หวันมาปักหลักใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในเมืองไทยนานกว่า 10 ปี ก็น้อมนำพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันเสมอมา เพราะเชื่อเสมอว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะ มีของแพงเหมือนใคร แต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพของตัวเองได้ :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
    

 

เข้าชม 19 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม