ศึกไหทองคำแตกบอกเลยว่าอีกยาว เพราะล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตัวแทนฝ่าย “อาม ชุติมา” ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อตรวจสอบการเลี่ยงภาษี ของนายประจักษ์ชัย บอสใหญ่ค่าย “ไหทองคำ เรคคอร์ด” พร้อมภรรยา และ “ลำไย ไหทองคำ”
หลังตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คน เลี่ยงภาษี เข้าข่ายพฤติกรรมร่วมกันฟอกเงิน พร้อมนำเอกสารหลักฐานการหนีจดทะเบียนของค่ายไหทองคำและเอกสารการแสดงคอนเสิร์ตของลำไย ตั้งแต่ปี 2559-2560 พบว่ามีรายได้ เกินกว่า100 ล้านบาท เบื้องต้นทางปปง. จะรอให้ทางกรมสรรพากร ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องการเจรจาเมื่อวานนี้ นายประจักษ์ชัย ได้ติดต่อผ่านสมรักษ์ คำสิงห์ แจ้งว่ายินดีจะฉีกสัญญาให้ หากมีการจ่ายเงิน 2 ล้านบาท แต่ตนและอาม ชุติมา ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว
ด้าน นายประจักษ์ชัย เจ้าของค่าย ไหทองคำเรคคอร์ด ได้เปิดเผยกับ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ว่า ไม่กลัวที่ฝั่งนายอัจฉริยะจะตรวจสอบเรื่องภาษีและการฟอกเงิน ยืนยันตนทำทุกอย่างถูกต้อง พร้อมเผยว่าเมื่อเช้านี้ ตนและทนายได้ทำการฟ้องหมิ่นประมาทกับนายอัจฉริยะที่ศาลจังหวัดศรีษะเกษ กรณีที่อีกฝ่ายกล่าวหาตนเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน
ส่วนที่นายอัจฉริยะขีดเส้นตายให้มาคุยกันภายใน 10.00 น. วันนี้ นายห้างไหทองคำลั่น ตนเป็นฝ่ายโจทก์ หากจะไกล่เกลี่ยต้องเป็นอีกฝั่งติดต่อมาต่างหาก ย้ำชัดที่เดินหน้าเอาผิดเพื่อต้องการให้สังคมได้รับรู้ความจริง
นอกจากนี้ประจักษ์ชัย ยังเผยถึงการที่โพสต์รูป “อาม ชุติมา” ในวัยเด็กที่มีเครื่องดื่มมึนเมานั้น เป็นการนำภาพเก่าที่สาวอามเคยโพสต์ไว้ มาโพสต์ใหม่เพื่อเตือนใจอามว่า สิ่งที่ทำนั้นไม่เหมาะสม ส่วนใบเรียกพบผู้ปกครอง ก็โพสต์เพื่อชี้แจงให้ทุกคนรู้ว่า ตนไม่เคยห้ามอามเรียนหนังสือ แต่อามทำตัวเองต่างหาก และที่ลบโพสต์ไป เพราะสงสารอามไม่อยากให้โดนโจมตีไปมากกว่านี้