หลัง “เสี่ยเจียง – สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ” ผู้บริหารบริษัทสหมงคลฟิล์มเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระเอกนักบู๊ “จา พนม” และบริษัทยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 และบริษัทยูไอพี ประเทศไทยเป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญาพร้อมเรียกค่าเสียหายถึง 1,600 ล้านบาทและมีผลให้ระงับการฉายหนัง Fast and Furious 7 เป็นการชั่วคราวนั้น
ล่าสุดในบ่ายวันนี้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความรับมอบอำนาจจากเสี่ยเจียง ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าสาเหตุที่ต้องฟ้อง “จา พนม” เหตุเพราะพระเอกนักบู๊ได้ทำผิดสัญญาโดยไปรับงานแสดงนอกค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางบริษัทฯ ก่อน จนเป็นเหตุให้ต้องขอคำสั่งศาลให้ระงับการฉายหนัง Fast and Furious 7 ในประเทศไทย และบริษัทสหมงคลฟิล์มได้ยื่นข้อเสนอต่อพระเอกนักบู๊เพื่อหาทางออกของปัญหาทั้งหมด คือ
1. ให้ “จา พนม” เข้ามาเจรจาถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดสัญญา รวมถึงเงินจำนวน 26 ล้านบาทที่เคยเบิกสหมงคลฟิล์มไปล่วงหน้าเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อไปกำกับภาพยนตร์เรื่อง ไอ้หนุ่มกังนัม
2. เสนอให้บริษัทยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 และบริษัทยูไอพี ประเทศไทย ตัดฉากที่มี “จา พนม” ในหนัง Fast and Furious 7 ที่จะเข้าฉายในเมืองไทยออกทั้งหมด
3. เดินหน้าสู้คดีกันต่อไป ซึ่งหนัง Fast and Furious 7 จะได้ฉายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศาลพิจารณา
ส่วนฟีดแบคหลังมีข่าวการระงับการฉายหนัง Fast and Furious 7 ในเมืองไทยจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คนั้น ทนายความเผยว่าเสี่ยเจียงรู้สึกกังวลไม่น้อยแต่อยากให้ทุกคนเข้าใจบริษัทสหมงคลฟิล์ม ที่ต้องสูญเสียรายได้และผลประโยชน์ไปเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญไม่อยากให้ฝรั่งมาละเมิดสิทธิ์ของคนไทยจึงต้องดำเนินการเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี ส่วนภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง SPLII และภาพยนตร์ไทยเรื่องคู่ซัดอันตราย Skin Trade ที่มี “จา พนม” แสดงนำด้วยนั้น
สหมงคลฟิล์มก็จ่อฟ้องด้วยเช่นกัน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
เข้าชม 11 ครั้ง