ชีวิตคนเราเป็นเหมือนวัฏจักร มีขึ้นก็ต้องมีลง ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงในวงการบันเทิง แม้ในอดีตจะเคยมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นแท่นพระเอก นางเอก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีดาวดวงใหม่ขึ้นมาประดับวงการ ส่วนดาวดวงเก่าก็ต้องลดบทบาทตัวเองเพื่อจะได้โลดแล่นอยู่ในวงการได้ต่อไป
นักแสดงรุ่นใหญ่หลายต่อหลายคนที่เราได้เห็นตามหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นบทบาททั้ง พ่อ-แม่ คุณหญิง คุณนาย ไปจนกระทั่งคนรับใช้ หรือแม่ค้า ถึงในยุคนี้เราจะได้เห็นพวกเค้าเป็นแค่นักแสดงตัวสมทบคนนึงของเรื่อง แต่บางคนในอดีตเคยขึ้นแท่นเป็นนางเอกหรือนักแสดงนำของละครหรือภาพยนตร์ มาก่อนทั้งนั้น //อย่าง “อูม วิยะดา” วัย 60 ปี ที่แจ้งเกิดจากการเป็นนางเอกหนังเมื่อ 40 กว่าปีก่อน และหันมารับบทเป็นนางร้ายจนเป็นที่จดจำในละครเรื่อง อีพริ้ง คนเริงเมือง แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2540 มีนักแสดงน้องใหม่แจ้งเกิด แน่นอนว่าคลื่นลูกใหม่ย่อมเบียดคลื่นลูกเก่าเสมอ เธอจึงโดนลดบทมาเป็นเพียงนักแสดงสมทบเรื่อยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ซึ่งวิยะดาเผยว่าเธอไม่ยึดติดกับบทบาทว่าจะต้องเด่น ต้องดัง การเป็นนักแสดงสมทบก็ไม่ได้เสียหายตรงไหน ตรงกันข้ามกลับมีงานให้ได้แสดงหลายเรื่องมากขึ้น เพราะคิวของนักแสดงสมทบไม่ต้องจัดคิวงานให้วุ่นวายเหมือนอย่างตัวเด่นของเรื่อง
ด้าน “ปิยะ ตระกูลราษฎร์” ที่เคยเป็นพระเอกจากหนังเรื่อง “ครูบ้านนอก” เมื่อ30กว่าปีก่อน เผยว่า ที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีนักแสดงใหม่แจ้งเกิดมากน้อยแค่ไหนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของตน เพราะการทำงานในวงการนี้ต้องเข้าใจวัฏจักรของการทำงานว่าเป็นอย่างไร มีขึ้นก็ต้องมีลง แต่หนึ่งสิ่งที่เค้ายึดมั่นเสมอคือ ไม่ว่าจะรับบทใดก็แล้วแต่ เค้าจะขอทุ่มเทกับบทบาทนั้น ๆ ให้เต็มที่ เพราะตนเชื่อว่าทุกตัวละครมีความสำคัญ แถมการได้เปลี่ยนบทบาทใหม่ๆ ก็ทำให้ได้ประสบการณ์ที่มากขึ้นอีกด้วย