“นักร้องรับจ้าง” ทางรอดของศิลปิน

   ถึงจะได้ชื่อว่าเป็น “นักร้องอาชีพ” เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีคิวงานจ้างเหมือนกันนะคะ บางคนมีเฉพาะงานคอนเสิร์ตหรือโชว์โปรโมทอัลบั้ม พอไม่มีผลงานเพลงก็เงียบกริบ แต่หลายยังยึดอาชีพนักร้องรับจ้างหากินได้ยาวๆ อันนี้มันขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคนค่ะ นอกจากเสียงดี ร้องสดๆ เพราะแล้ว ยังต้องเอ็นเตอร์เทนผู้ชมเก่ง ที่สำคัญคือต้องมีวินัย และไม่เลือกงาน

 

   อย่างนักร้องเสียงทรงพลัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่เล่าว่าทั้งก่อนและหลังเป็นนักร้องดัง มีซิงเกิ้ลเพลงของตัวเอง เธอก็เป็นนักร้องรับจ้าง ตระเวนรับงานโชว์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็ยินดีรับทุกงาน ตั้งแต่ร้องเพลงในห้องอาหารหรู, ในโรงแรม, งานวัด, งานแต่ง, งานวันเกิด, ปีใหม่, เกษียณ, งานเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงาน เรียกว่างานเล็กงานใหญ่รับหมด แม้กระทั่งร้องเพลงในงานศพเธอก็เคยรับมาแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังคงรับอยู่ ซึ่งเจ้าตัวมองว่าที่ยังคงมีคนจ้าง ก็เพราะเธอมีวินัย และสนิทกับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง จึงขออนุญาตนำเพลงไปร้องทำมาหากินได้ แลกกับการไปร้องเพลงตอบแทนให้เจ้าของลิขสิทธิ์ในงานอื่นๆ แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ทำให้ยึดอาชีพนักร้องรับจ้างมาได้กว่า 30 ปีแล้ว โดยไม่ต้องผันตัวไปทำอาชีพอื่น

 

   ด้านแร็พโย่รุ่นบุกเบิก เจ เจตริน ตั้งแต่ทำอัลบั้มแรกเมื่อปี 2534 ตลอด 24 ปีที่ผ่านมาเค้าก็ยังมีงานต่อเนื่องทั้งที่ไม่มีเพลงใหม่มานานหลายปีแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีผู้ชมหลักหมื่นหรือเพียงสิบกว่าคน เขาก็เล่นเต็มที่เท่ากัน ไม่มีอีโก้ ขนาดถูกจ้างให้ไปร้องเพลงในผับแนวโป๊งชึ่งรำวง ก็ยังสามารถปรับตัวและปรับเปลี่ยนแนวเพลงได้ เพราะเค้ามองว่าอาชีพนักร้อง ต้องมีความเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ด้วยถึงจะอยู่รอด