ย้อนไปเมื่อปี 2537 หลายคนคงจำหน้าตาใสบริสุทธิ์ของนักแสดงสาว ทราย เจริญปุระ ในบทของ “ผึ้ง” เด็กสาวผู้โชคร้ายที่ถูกคนใจโฉด 7 คนข่มขืนอย่างไม่ปราณีจนเสียสติจากเรื่อง “ล่า” ยิ่งเมื่อเธอได้มีโอกาสร่วมงานกับ นก สิยจัย ที่แสดงเป็นแม่ของเธอซึ่งตามล่าฆ่าคนที่มาทำร้ายลูกสาวอย่างอำมหิตก็ยิ่งช่วยส่งเสริมให้ชื่อดังเธอดังเป็นพลุแตกขึ้นมาทันที
และเพราะหน้าหล่อๆ มาดเท่ๆ ของพระเอกหนุ่ม ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ในหนัง “2499 อันธพาลครองเมือง” เข้ากับบทนักเลงแห่งตำนาน “แดง ไบเล่ย์” สุดๆ จึงไม่น่าแปลกที่จะทำให้หนุ่มติ๊กแจ้งเกิดทันทีที่เผยแพร่ตัวอย่างหนังเรื่องนี้ และกลายเป็นภาพจำมาจนถึงปัจจุบัน
และเมื่อปี 2541 หนุ่มน้อยลูกครึ่งลาวกับออสเตรเลีย อนันดา เอเวอริ่งแฮม ผมยาวๆ กับมาดเซอร์ๆ ในหนัง “อันดากับฟ้าใส” ก็ทำเอาสาวๆ ทั้งบ้านทั้งเมืองกรี๊ดสนั่นมาดเซอร์ ซึ่งเพียงไม่กี่วันที่หนังเข้าฉาย ชื่อของเค้าก็เข้าไปนั่งอยู่ในใจสาวๆ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
ส่วนบท “ไข่ย้อย” และ “ดากานดา” จากหนัง “เพื่อนสนิท” ก็ส่งให้ 2 พระ-นางหน้าใหม่ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ นุ่น ศิรพันธ์ ขึ้นแท่นพระนางดาวรุ่งในปี 2548 เพราะซันนี่เล่นบทหนุ่มมาดเซอร์ที่แอบหลงรักเพื่อนซี้อย่างนุ่น ได้สมบทบาทสุด ๆ
ฟากพระเอกหน้าใส มาริโอ้ เมาเร่อ ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างคุณพ่อชาวอิตาลีและคุณแม่คนไทยเชื้อสายจีน ก็แจ้งเกิดทันทีกับหนังเรื่องแรก “รักแห่งสยาม” ซึ่งเป็นหนังไทยเรื่องแรกๆ ที่กล้าตีแผ่เรื่องชายรักชาย แถมความหล่อใสทะลุจอของหนุ่มโอ้ยังทำให้เค้าดังไกลไปถึงแดนมังกร มีแฟนๆ เหนียวแน่นหนึบมาจนถึงทุกวันนี้
ด้านหนุ่ม พีช พชร ก็ดังเปรี้ยงตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรก “ซักซี๊ดห่วยขั้นเทพ”ส่วนหน้าหล่อๆ นุ่มๆ ของ เจมส์ จิรายุ ก็ช่างเข้ากับบท “คุณชายพุฒิภัทร” คุณชายหมอแห่งวังจุฑาเทพเสียเหลือเกิน ก็เลยขึ้นแท่นพระเอกดาวรุ่งไปตามระเบียบตั้งแต่ละครเรื่องแรกเช่นกัน
และนักแสดงหน้าใหม่ กัปตัน ชลธร กับ ไวท์ ณวัชร์ ก็แจ้งเกิดแบบแพ็คคู่ทันทีที่เล่นซีรี่ส์วัยรุ่น “เลิฟซิก เดอะ ซีรี่ส์” ค่ะ เพราะบทบาทชายรักชายที่พวกเค้าได้รับนั้น ถือเป็นมิติใหม่ของวงการโทรทัศน์ แถมยังเล่นได้เนียนดี๊ดีอีกต่างหาก ก็ไม่ต้องแปลกใจที่เหล่าสาววายจะเทใจให้กับพวกเค้าไปเลย
