750 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 26,250 ล้านบาท คือเงินที่ค่ายเพลงโซนี่จะต้องจ่ายให้กับกองมรดกของ ไมเคิล แจ็คสัน เพื่อซื้อหุ้นของบริษัทโซนี่/เอทีวี พับลิงชิ่ง ที่ราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับถือครองอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ค่ายโซนี่มีลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการเผยแพร่ผลงานของศิลปินแถวหน้าอย่าง เดอะบีเทิลส์, บ็อบบ ดีแลน, อิมิเน็ม และเทเลอร์ สวิฟท์ รวมทั้งอีกหลายคน
จอห์น บรังก้า และ จอห์น แมคเคลน ผู้ดูแลกองมรดกของไมเคิลออกแถลงการณ์ว่า เป็นการมองการณ์ไกลและอัจฉริยะในการลงทุนด้านดนตรีของไมเคิลที่ตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัท ATV เมื่อปี 2528 ด้วยมูลค่าเพียง 1,452 ล้านบาท ก่อนจะผนวกรวมกับบริษัทโซนี่ในเวลาต่อมา // ซึ่งตั้งแต่ไมเคิล เสียชีวิตเมื่อปี 2552 ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทจัดจ่ายหนังเพลง โซนี่/เอทีวี ก็ถือเป็นรายได้ก้อนโตที่สุดที่ไหลเข้ากองมรดก จนสามารถปลดหนี้นับร้อยล้านดอลล่าร์ของราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับได้
ถึงอย่างนั้นการตัดสินใจขายหุ้นครั้งนี้ ก็ไม่ได้ครอบคลุมถึงลิขสิทธิ์ในเพลงต้นฉบับที่ไมเคิลร้องไว้ และเพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง เพราะไมเคิลยังมีหุ้นอยู่กับบริษัท EMI Publishing ให้เก็บรายได้กินอีกยาวครับ
โดยผู้ได้รับผลประโยชน์จากกองมรดกของ ไมเคิล แจ็คสัน ก็คือ แคทเธอรีน แม่ของเค้า และลูกๆ ทั้ง 3 คนของไมเคิลนั่นเองครับ
