หลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอขณะพิธีกรหนุ่มสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี "น๊อต- อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล" วัย 28 ปี แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดกลางทำร้ายร่างกายคนขับมอเตอร์ไซค์คู่กรณีที่ขับไปชนท้ายรถมินิคูเปอร์คันทรีแมนสีเหลืองของเขาจนไฟท้ายแตก ในขณะที่คู่กรณีที่โดนต่อยพบจมูกหัก ดั้งเบี้ยว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.59 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา(6 พ.ย)นายอัครณัฐ หรือ น็อต และ ทนายความได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังนายกิตติศักดิ์ สิงห์โต หรือ บอย อายุ 25 ปี คู่กรณี พร้อมแม่และพี่สาวได้เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกรณีพิธีกรหนุ่มทำร้ายร่างกาย ที่สน.ยานนาวา
โดย นายอัครณัฐ หรือ น็อต ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ยอมรับว่า ตนผิดและขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน และยืนยันว่าไม่ใช่จะไม่รับผิดชอบเพราะทันทีที่เกิดเหตุได้มีการมาพูดคุยกันที่ สน.ยานนาวา แห่งนี้แล้ว ซึ่งตนได้ขอโทษคู่กรณีและแม่ต่อหน้าร้อยเวร จากนั้นยังได้ตกลงกันถึงขั้นที่ว่า ตนจะแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ของตนว่าไม่มีคู่กรณี
"ผมรู้สึกผิดมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไรทุกคนรุมด่าผม ถามว่าสมควรใหม่ ก็สมควร เพราะทุกคนเห็นในจุดที่ผมทำน้องเขา ซึ่งวันนั้นคุณแม่ของน้องบอกผมเองว่า หากมีปัญหาภายหลังจะเป็นผู้ออกมาแก้เอง(ในระหว่างนี้น็อตได้เปิดคลิปในโทรศัพท์ ซึ่งคุณแม่คู่กรณีได้พูดไว้ในวันก่อนให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อเป็นการยืนยัน) ที่ผ่านมา 2 วัน ผมไม่ได้หนีไปไหน แต่ที่ติดต่อผมไม่ได้ เพราะผมทำงานอยู่ จากนั้นผมได้โทรกลับ จึงทราบว่าแม่บอกว่าญาติไม่ยอม ผมยังบอกแม่ด้วยว่า ผมขอโทษ ผมไม่ได้หนี ผมไม่มีความจำเป็นต้องหนี"
พิธีกรคนเดิม ยังขอความเห็นใจด้วยว่า การที่ให้คู่กรณีใช้สิทธิ์การรักษาของประกันสังนั้นืเพราะที่บ้านไม่ได้มีเงินมาก แต่ได้บอกกับแม่คู่กรณีแล้วว่าหากมีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงที่รับไหวให้แจ้งตน ตนพร้อมที่จะช่วนเหลืออย่างเต็มที่
"บ้านผมไม่ได้มีตังค์ ผมทำงานมาตั้งแต่เด็กเพื่อเก็บเงินซื้อความฝันของผม(รถมินิ) ผมไม่มีสิทธิ์หวงความฝันของผมเหรอ ผมไม่ได้หนี ผมรับผิดชอบทุกอย่าง ผมไม่เคยไม่รับผิดชอบเรื่องอะไร วันนี้ผมโดนว่า มีคนบุกมาปาไข่ที่บ้าน พ่อแม่ผม ร้านอาหารผม โดนหมด คนเหล่านั้นเขาทำผิดอะไร ผมขอ ผมรับผิดทุกอย่าง ขอให้มาว่าที่ผม ผมรับผิดทุกอย่าง ผมยังเป็นเด็กน่ารัก ผมไม่ได้สร้างภาพเป็นคนดีเพื่อเป็นพิธีกร ผมตั้งใจทำมัน อย่าเอาการกระทำเพีงแค่ 1 นาทีครึ่งมาตัดสินผมทั้งหมด"
เมื่อถามถึงกรณีที่สั่งให้คู่กรณีกราบรถ น็อต ตอบว่า ตอบว่า นาทีนั้น คู่กรณีไม่ทิ้งรถ ยอมรับเป็นคนที่ยังมีอารมณ์ การที่คู่กรณีมาทำรถที่เป็นความฝันของตน ไม่ขอโทษตนไม่เป็นไร ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรก็จึงพูดไป ซึ่งผิดที่ใช้อารมณ์เพียงเพราะไม่อยากให้คู่กรณีหนีไป
"ผมค่อนข้างโมโห เหตุการณ์เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว จากนั้นผมก็มาสน.ไม่ได้หลบหนี มาขอโทษน้องและแม่ที่นี่ ยืนยันผมรักความฝันของผม ผมจะรับผิดชอบ จะดูแลเท่าที่ผมจะทำได้ แต่ขอร้องเพียง 1 คลิกของทุกคน ข้อความที่ส่งกัน บั่นทอนจิตใจผม อย่าทำร้ายคนที่ผมรัก เขาไม่เกี่ยว อย่าตัดสินผมแค่ 1 นาทีครึ่ง จากมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้น ผมไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายเขา เขาก็ไม่มีสิทธิ์หนีผมเช่นกัน ขอทุกคนอย่าคิดเพียงครึ่งเดียว ขอให้เชื่อในตัวน็อต วันนี้ถึงผมจะจมน้ำ เพราะฤทธิ์การโมโหของตัวเอง แต่หลังจากนี้ผมจะว่ายขึ้นมา หากคนที่รู้จักผมจริง ไม่มีวันไหนที่ผมอยู่บ้านเฉยๆ ผมมีฝันอีกไกล ผมมีครอบครัวต้องดูแล มีสิ่งที่รับผิดชอบมากมาย ถ้ายังเชื่อในตัวผมอย่าเพิ่งไปไหน ผมผิดพลาด ผมอยากให้ทุกคนให้อภัย" :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน