“จ๊ะ” เซ็ง! ไร้ข้อสรุปเรื่องบ้าน ลั่น หมดศรัทธาโครงการ

สืบเนื่องจากกรณีของนักร้องคันหู “จ๊ะ นงผณี” งานเข้าหนัก! เพราะบ้านย่านบางบัวทองที่ตัวเองอยู่อาศัยในปัจจุบัน และผ่อนชำระจนได้โฉนดมาครอบครองตั้งแต่ปี 2559 มูลค่ารวมตกแต่งกว่า 5 ล้านบาทไม่มีสิทธิ์ขาย เพราะที่ดินดังกล่าวติดอยู่ในคดีฟ้องระหว่างโครงการกับเจ้าของเดิม 


ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ค.62) นักร้องสาว “จ๊ะ นงผณี” มาพร้อม “มนตรี บานเย็น” ทนายความ เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดนนทบุรีเพื่อเข้าประชุมหารือกับนายชลธี ยังตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี, ผู้แทนกรมบังคับคดี และตัวแทนจากสำนักงานที่ดิน พร้อมด้วยตัวแทนลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนโครงการละ 5 คน จากผู้ได้รับความเสียหายถึง 1,156 หลัง 

.


โดยหลังจากหารือเสร็จเรียบร้อย “จ๊ะ” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ในวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งที่ต้องกลับไปขายบ้าน และเอาเงินไปซื้อบ้านหลังใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว โดยกรมบังคับคดีข้อเวลาในการจัดการเรื่องนี้อีก 15 วัน ซึ่งก็ยังไม่มั่นใจว่าจะออกมาในรูปแบบไหน สำหรับจ๊ะความรู้สึกส่วนตัวที่มีกับโครงการตอนนี้ คือเขาไม่ออกมารับผิดชอบอะไรเลย ตอนแรกที่ซื้อบ้านหลังนี้เพราะมองว่าโครงการดี แต่ตอนนี้หมดความเชื่อถือและหมดศรัทธากับที่นี่ไปเลย มีแค่การส่งจดหมายกลางๆ ไม่มีความชัดเจนกับลูกบ้านทุกคน ชี้แจงว่าเขาซื้อโครงการมาถูกต้องและยินดีชดใช้ทั้งสิ้นให้เร็วที่สุด ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลากี่ปี”

นักร้องสาวยังกล่าวอีกว่า “จริงๆ วันนี้ที่ประชุม ท่านควรจะมาด้วย แต่กลับมีแต่ฝ่ายลูกบ้านที่คุยกันเอง ถ้าเป็นแบบนี้ประชุมกันที่หมู่บ้านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาให้เสียเวลา ส่วนเรื่องขายบ้านคือมันก็ขายได้ แต่ใครจะซื้อ วันนี้โอนได้ ซื้อขายได้ แต่คนที่ซื้อต่อต้องทำใจยอมรับว่าในวันข้างหน้าอาจจะต้องมีคดีแบบนี้อีก และตอนนี้คนที่อยากซื้อก็ไม่ซื้อแล้ว เดี๋ยวเราจะอัดคลิปน้องคนนั้นเลย ว่าความรู้สึกที่เขาไม่ซื้อเพราะอะไร ก็อยากจะฝากถึงโครงการ ให้มาคุยกันเหมือนตอนที่ท่านขายบ้านให้ ตอนนั้นท่านโทรเช้าโทรเย็น แต่ ณ วันนี้ เราโทรไปหาท่าน ก็ยังไม่รับสายเลย และฝากถึงคนที่เสพข่าวอยู่ให้พิจารณากับโครงการนี้ด้วยค่ะ”

.


ด้าน “มนตรี บานเย็น” ทนายความ เผยว่า “วันนี้ท่านเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับตัวแทน สรุปว่าอีก15 วัน จะดำเนินการสองเรื่อง 1.ยุติเรื่องข้อกฎหมายทั้งหมดตามกระบวนการที่ลูกบ้านได้นำเสนอ ว่าไม่ควรเดินหน้าต่อไปอีกแล้ว 2.ไปเจรจากับเจ้าหนี้รายเดิมที่เหลืออีก 3 ราย คือท่านรับปากเราแล้ว และคิดว่าน่าจะไปในทิศทางที่ดี เพราะเจ้าหนี้อีก 3 รายมีมูลค่าหนี้ไม่มากนัก ยังอยู่ในกระบวนการที่เจรจากันได้ แต่ในวันนี้ทางโครงการที่เป็นเจ้าหนี้ไม่มีการเดินทางเข้ามาเจรจาด้วยแต่อย่างใด ซึ่งอยากร้องขอให้ท่านเดินทางเข้าชี้แจงกับกรมบังคับคดี กับเจ้าหนี้รายเดิม มันจะได้ใจจากลูกบ้านอีกนับพันราย แต่ถ้าไม่จบไม่ยอม ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกรมบังคับคดีต่อไป”

เข้าชม 23 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม