ซัดกันยังไม่จบและดูท่าจะยาวกับศึกไหทองคำ (แตก) ล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตัวแทนฝ่ายนักร้องและนักแต่งเพลงลูกหม้อค่าย “ไหทองคำ เรคคอร์ด” อย่าง “อาม ชุติมา” เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้สำนักงานป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบการหลีกเลี่ยงภาษี ของนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ หรือประจักษ์ชัย ไหทองคำ ผู้บริหารค่ายเพลง “ไหทองคำ เรคคอร์ด” พร้อมภรรยา นางโยษิตา เนาวรัตน์ และนางสาวสุพรรณษา เวชกามา หรือ “ลำไย ไหทองคำ” นักร้องชื่อดัง หลังตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 คน หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ที่เข้าข่ายพฤติกรรมร่วมกันฟอกเงินตามประมวลกฎหมายรัษฎากรมาตรา 37 ตรี และมาตรา 37 ทวิ พร้อมนำเอกสารหลักฐานหนีจดทะเบียนค่าย “ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด” และเอกสารการแสดงคอนเสิร์ตของลำไย ไหทองคำ ตั้งแต่ปี 2559-2560 พบว่ามีรายได้ เกินกว่า100 ล้านบาท
โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่าได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าตั้งแต่บริษัทไหทองคำจัดตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ยังไม่มีการจดทะเบียน โดยเพิ่งจะมีการจดทะเบียนปี 2561 มีชื่อของภรรยานายประจักษ์ชัย เป็นคนถือหุ้นคนเดียว ซึ่งพบว่ายังไม่เคยมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคล ทั้งที่มีรายได้จากการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเดือนละกว่า 4 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมปีละ 40 ล้านบาท รวม 3 ปี กว่า 120 ล้านบาท เชื่อมีเจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเข้าไปเกี่ยวข้องในการเลี่ยงภาษี เพราะก่อนหน้านี้ที่ตั้งบริษัทอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
ส่วนเรื่องการเจรจาเมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 61) นายประจักษ์ชัยติดต่อผ่านนายสมรักษ์ คำสิงห์ แจ้งว่ายินดีจะฉีกสัญญาให้ หากมีการจ่ายเงินเป็นค่ายกเลิกสัญญา 2 ล้านบาท แต่ตนและน้องอามไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะตามหลักในเอกสารสัญญาของประจักษ์ชัยกับอาม หากทำผิดสัญญาจะสามารถเรียกจ่ายค่าเสียหายฟ้องทางแพ่ง 2 ล้านบาทได้อยู่แล้ว และตัวอามบอกว่าไม่มีเงินที่จะจ่ายให้ตามที่นายประจักษ์ชัยเสนอมา
ทั้งนี้ยืนยันว่าการเจรจายุติเรื่องนี้จะต้องเป็นการเจรจากับนายประจักษ์ชัยเพียงคนเดียว ขอเดินหน้าเอาผิดทางกฎหมายในทุกกรณีและเรื่องนี้ต้องการเพียงแค่ยุติสัญญาของอามกับบริษัทไหทองคําเพียงเท่านั้น
โดยวันนี้ช่วงบ่ายวันนี้ นายประจักษ์ชัยจะส่งตัวแทนมาเพื่อเจรจาหาข้อยุติในเรื่องนี้แต่ยังอยู่ระหว่างการรอต่อกลับมา ส่วนฝ่ายของนายประจักษ์ชัย ได้ให้ทนายความได้ยื่นฟ้องกับตนเองในข้อหาหมิ่นประมาทนั้นก็ดำเนินไป
เบื้องต้นทางปปง. จะรอให้ทางกรมสรรพากร ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะส่งเรื่องให้อธิบดีกรมสรรพากรชี้มูลความผิด แล้วจึงจะส่งเรื่องให้ปปง.สืบยึดทรัพย์ หรือหากกรมสรรพากร จะดำเนินการยึดทรัพย์เองก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่ากรมสรรพากรจะใช้เวลาสืบสวนเรื่องดังกล่าวนานเท่าไหร่ เพราะเป็นกฎหมายใหม่ และยังไม่เคยมีการส่งเรื่องชี้ขาดมาก่อน
ด้าน นายประจักษ์ชัย เจ้าของค่าย ไหทองคำเรคคอร์ด ได้เปิดเผยกับ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ว่าไม่กลัวเรื่องที่นายอัจฉริยะจะตรวจสอบเรื่องภาษีและการฟอกเงิน เพราะฝ่ายบัญชีตนทำทุกอย่างถูกต้อง ตนเริ่มจากค่ายเพลงอินดี้เล็กๆ จนกระทั่งมีชื่อเสียงและเปิดเป็นบริษัทจะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ยันเสียภาษีชำระอย่างถูกต้อง พร้อมเผยเมื่อเช้านี้ (30 ต.ค.61) ได้ฟ้องหมิ่นประมาทกับนายอัจฉริยะที่ศาลจังหวัดศรีษะเกษ กรณีที่อีกฝ่ายกล่าวหาตนเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน
ส่วนที่นายอัจฉริยะขีดเส้นตายให้มาคุยกันภายใน 10.00 น. วันนี้ ประจักษ์ชัยเผยตนเป็นฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องอาม ทำไมจะต้องติดต่อไปพูดคุย ตนเป็นผู้ที่ถูกทำลายและได้รับความเสียหายจากเรื่องที่เกิดขึ้น หากจะไกล่เกลี่ยต้องเป็นอีกฝั่งติดต่อตนมา และที่ผ่านมาไม่มีคนกลางมาคอยเจรจาประนีประนอม ย้ำว่าที่ทำทุกวันนี้เพื่อต้องการให้สังคมได้รับความกระจ่างว่าอะไร เป็นอะไร
นอกจากนี้ประจักษ์ชัยยังเผยถึงการที่โพสต์รูป “อาม ชุติมา” ในวัยเด็กที่มีเครื่องดื่มมึนเมา และใบเรียกพบผู้ปกครอง เจ้าตัวเผยว่าไม่ได้เป็นภาพที่ออกมาจากตน แต่อามเคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว เพื่อบอกให้คนรู้ว่ามีการใช้ชีวิตอย่างไร ตนก็แค่นำภาพเก่ามาโพสต์เตือนอามให้รู้ว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ส่วนใบเรียกพบผู้ปกครอง ต้องการชี้แจงให้รู้ว่าตนไม่ได้ห้ามให้อามไม่เรียนหนังสือ แต่อามทำตัวเองจนโรงเรียนต้องออกจดหมายดังกล่าว และที่ลบโพสต์ไปนั้น เพราะสงสารอามไม่อยากให้โดนโจมตีไปมากกว่านี้ :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน