เช้าวันนี้ ( 25 ต.ค.2561) ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 12 มีนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ วัย 44 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ , เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรณีเจ้าหน้าตำรวจบุกจับเสกโลโซ ตามหมายจับที่บ้านพักเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560
โดยศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า ในข้อหาต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำหมายศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปแสดงตามขั้นตอนทางกฎหมายและการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เกินกว่าเหตุ เนื่องจากจำเลยมีลักษณะการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และมีลักษณะที่พร้อมจะต่อสู้ขัดขืน พูดจาข่มขู่ และขึ้นลำอาวุธปืนไว้ในลักษณะพร้อมใช้งาน สำหรับประเด็นที่จำเลยแย้งว่าขณะที่กระทำความผิดเป็นผลข้างเคียงมาจากอาการไบโพล่าร์ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าในขณะที่จำเลยก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนไม่ได้เกิดขึ้นจากอาการทางจิต
ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของจำเลยเป็นสีม่วง และพบสารเมทแอมเฟตามีน แต่จำเลยให้การปฏิเสธว่ามีการรับประทานยารักษาโรคไบโพล่าร์ และได้นำยามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ผลจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พบว่ายารักษาอาการไบโพล่าร์ของจำเลยไม่มีส่วนผสมของสารเมทแอมเฟตามีน จึงสรุปได้ว่าจำเลยเสพสารเสพติดจริง
สำหรับประเด็นที่จำเลยแย้งว่ามีการสลับตัวอย่างปัสสาวะเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีพยานหลักฐานยืนยันคำโต้แย้งของจำเลย เนื่องจากในขั้นตอนกระบวนการเก็บตัวอย่างปัสสาวะของจำเลยถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีความชำนาญการในการตรวจสอบหาสารเสพติด และยังกระทำต่อหน้าจำเลย รวมทั้งยังมีการเซ็นยินยอมจากตัวจำเลยเอง ซึ่งในระหว่างการตรวจสอบหาสารเมทแอมเฟตามีนก็ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการเพียงคนเดียวและถูกเก็บรักษาไว้ในตู้ของเจ้าหน้าที่ และมีการปิดผนึกอย่างมิดชิด ส่วนประเด็นเรื่องการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจากการตรวจสอบเลขทะเบียนของตัวปืนพบว่ามีการลงทะเบียนไว้ถูกต้องแต่เป็นชื่อของบุคคลอื่นไม่ใช่ชื่อของจำเลย ซึ่งจำเลยได้รับสารภาพในประเด็นดังกล่าว
จึงพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุก ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน , ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาฯ จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุกคดีนี้ทั้งสิ้น เป็น 1 ปี 18 เดือน และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้วแต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีก จึงไม่สมควรให้รอลงอาญา
และล่าสุดแฟนสาวของเสก คือ “อีฟ แม็กซิม” พร้อมทนายความ กำลังยื่นขอประกันตัวอยู่ :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน