หลังไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กครั้งสุดท้ายนักร้องใจสั่งมา “เสก โลโซ” หรือ “นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย” ซึ่งสิ้นสุดราว 19.00 น. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค. 61) ก่อนจะมีรายงานว่า “เสือ เสฏฐกานต์” ลูกชายคนโต, อดีตภรรยา “กานต์ วิภากร” แฟนคนปัจจุบัน “อีฟ แม็กซิม” และลูกน้องคนสนิทของกานต์อย่าง “บี” ร่วมกันวางแผนนำตัวเสกส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากร็อกไวเลอร์ไลฟ์สดกว่า 150 ครั้ง รวมเกือบ 9,000 นาทีตลอด 13 วันที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะมีผู้ติดตามชมการไลฟ์สดมากถึง 21 ล้านวิว แต่หลายคนก็เป็นห่วงสุขภาพ เพราะเสกไลฟ์เฉลี่ยวันละราว 12 ชั่วโมง มากสุดคือกว่า 16 ชั่วโมง ด้วยอารมณ์สลับขั้ว บางครั้งก็ร้องไห้ บางครั้งเกรี้ยวกราด ยันปัสสาวะผ่านไลฟ์โดยหันด้านหลังให้ พร้อมตรวจปัสสาวะตัวเองว่าไม่มีสารเสพติด
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (21 ส.ค.61) อดีตภรรยา “กานต์ วิภากร” , พร้อม “เสือ เสฏฐกานต์” , ภรรยาคนปัจจุบัน “อีฟ แม็กซิม” และ “บี” เปิดใจผ่านรายการดังถึงปฏิบัติการครั้งนี้ว่า เริ่มจากอดีตภรรยา “กานต์” ปรึกษากับ “เสือ” ลูกชายคนโตว่า “เสก” ต้องการรักษาด่วน ตามที่หมอลงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กในช่วงที่เสกไลฟ์ไม่หลับไม่นอนว่าเป็นอาการโรคไบโพลาร์ระยะสุดท้าย จนได้คำตอบว่าต้องปฏิบัติการพาเสกไปรักษาก่อนที่ “เสือ” จะบินกลับไปเรียนที่ประเทศอเมริกาในวันที่ 21 ส.ค. 61 เท่านั้น เพราะเสือเป็นทายาทโดยตรงมีสิทธิ์ตามกฏหมายที่สามารถทำได้ (เสือเป็นเจ้าของบ้านที่เสกอาศัยอยู่ อายุ 21 ปี บรรลุนิติภาวะแล้ว สามารถเซ็นเอกสารที่โรงพยาบาลในการยินยอมให้เสกรักษาตัวได้) แต่ตัวกานต์ไม่มีสิทธิ์เพราะ “หย่า” ขาดจากกันแล้ว
ด้าน “เสือ” เผยว่าปกติไม่เคยดูไลฟ์ของ “พ่อ” แต่มารู้เรื่องเมื่อ 3 วันก่อน เห็นว่าพ่อไม่หลับไม่นอน พ่อนอนมากสุดคือ 2 ชั่วโมง ต่อ 1 สัปดาห์ ไม่ใช่ 1 วันนอน 2 ชั่วโมง ตัวเสือได้คุยกับพ่อเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้เข้าไปที่บ้านจนรู้สึกว่าบ้านเละมาก เต็มไปด้วยอุจจาระของหมาแมว เพราะโรคไบโพลาร์ทำให้พ่อคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย เลยไล่คนออกจากบ้านและล็อกโซ่ไว้ที่ประตูหน้าบ้าน
ในส่วนของ “กานต์” ระบุเสกป่วยเป็นไบโพลาร์มา 10 ปีแล้ว ก่อนจะเริ่มปรึกษากับลูกชายคนโต “อีฟ” และ “บี” รวม 4 คน จะต้องพาเสกไปรักษา และปฏิบัติการครั้งนี้ทำ 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 16 ส.ค. 61 แต่ไม่สำเร็จเพราะ รปภ. หน้าหมู่บ้านไม่ให้ “เสือ” ลูกชายเข้าหมู่บ้าน เนื่องจากเสกแจ้งไว้กับทาง รปภ.ว่าถ้าใครจะเข้ามาที่บ้านต้องโทรบอกเสกก่อน และตั้งใจจะวางยานอนหลับเสก แต่สุดท้ายไม่ได้ทำ
สุดท้ายภารกิจสำเร็จในวันที่ 18 ส.ค. 61 โดยมี “อีฟ “ เป็นคนดูต้นทางผ่านห้องน้ำในบ้านของเสก และประสานกับนิติบุคคลหมู่บ้านเรียบร้อย มีการเตี๊ยมว่า “รถตู้” ที่จะไปพาตัวเสกส่งรพ. เป็นมูลนิธิที่เสกกำลังเปิดรับบริจาคผ่านไลฟ์ในวันดังกล่าว เพื่อที่จะเข้าบ้านไปถึงตัวเสกได้ ซึ่งในรถตู้มีทีมงานผู้ชาย 6 คน โดยกานต์ เสือ และ บี รออยู่หน้าป้อมยามของหมู่บ้านคอยจับตาเสกผ่านไลฟ์อย่างเดียว
ทั้งนี้ “อีฟ แม็กซิม” เสริมว่าพอทีมงาน 3 คนเข้ามาล็อกตัวเสกไว้ เสกไม่ขัดขืนแค่ถามว่าเป็นใคร ส่วนอีฟได้ปิดไลฟ์ที่เสกกำลังเปิดอยู่ทันที แต่เหตุชุลมุนเกิดก่อนที่เสกจะขึ้นรถตู้ เจ้าตัวขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถตู้ จนอีฟต้องบอกทีมช่วยเหลือว่าขอขึ้นรถตู้ไปด้วย เสกเลยยอมขึ้นรถตามไป
โดยเย็นวันนี้ (21 ส.ค. 61) ตัวกานต์ เสือ และอีฟ เตรียมไปเยี่ยมเสกที่โรงพยาบาล เสือเผยต่อว่าสงสารพ่อมาก เพราะคงไม่อยากเห็นตัวเองในวันอ่อนแอ ส่วนตัวคิดว่าโรคไบโพลาร์หายยาก บางคนหาหมอทั้งชีวิตยังไม่หาย แต่ถ้าพ่อตั้งใจรักษาและกินยาอาจทำให้อารมณ์ไม่สวิงกลับขึ้นมาอีก เป็นโรคที่ต้องการกำลังใจและตัวพ่ออาจคิดว่า “ไม่มีใครรัก” ซึ่งความจริงไม่ใช่ คนไทยอยากให้เขารักษาและให้กลับมาเป็น “เสก โลโซ” แบบที่ทุกคนเคยรู้จัก ย้ำถ้าเจอหน้าพ่ออยากบอกว่ารักพ่อจริงๆ ทั้งหมดที่ทำไปคือความหวังดี พร้อมเผยทิ้งท้ายว่า “พ่ออย่าโกรธนะครับ” รวมถึงขอโทษคนทุกคนที่พ่อเคยไลฟ์ด่าด้วย ทั้งหมดที่ทำเพราะพ่อป่วยจริง
โดย “กานต์” ย้ำแพทย์ระบุไม่พบสารเสพติดในตัวเสก แต่อาการที่เป็นคือมาจากโรคไบโพลาร์ ซึ่งเป็นโรคของอารมณ์ไม่ใช่โรคจิต ส่วนตัวคิดว่าหายได้ ถ้าเสกวินัยดี ตอนนี้อยู่ รพ. มา 3 วันแล้ว พร้อมเผยว่าถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ตนซึ้งใจอีฟเพราะดูแลเสกดีมาตลอด และคิดว่ายกสามีให้อีฟดูแลต่อเลย ส่วนตนขอแค่ให้เสกทำหน้าที่พ่อต่อไปเท่านั้น :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน