
ชีวิตเหมือนดั่งในนิยายจริงๆ คุณแม่สุดสตรอง “แพท ณปภา” หลังเจ้าตัวเปิดใจเรื่องครอบครัวแบบหมดเปลือกกลางรายการ “ตี 10” ว่าความจริงแล้วคนที่เป็นพ่อแท้จริงของเธอคือคนที่เรียกว่า “พี่เชษฐ์” (เชษฐา ตันตระกูล) มาโดยตลอด และคนที่เรียกว่า “แม่” และ “พ่อ” แท้จริงคือ “คุณย่า” และ “คุณปู่” ซึ่งความลับถูกเปิดเผยเมื่อตอนสาวแพทอายุประมาณ 20 ปี รวมถึงตนรู้ความจริงเรื่องนี้มากว่า 10 ปีแล้ว และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยโหยหาความรัก
โดยเหตุผลที่คุณแม่สุดดสตรองตัดสินใจออกมาเปิดเผยความจริงต่อสาธารณชนเพราะไม่อยากให้ลูกชายอย่าง “น้องเรซซิ่ง” สับสน เนื่องจากตนสอนให้เรซซิ่งเรียกคุณแม่ว่า “ทวด” ซึ่งหลายคนเริ่มสงสัย และถามตนมาสักพักว่าทำไมให้เรซซิ่งเรียกว่า “คุณแม่” ตัวเองว่าทวด
นอกจากนี้เจ้าตัวยอมรับว่า หลังเปิดหมดเปลือกก็รู้สึกสบายใจและโล่งใจมากขึ้น เพราะตอนนี้ทุกคนรับรู้ความจริงไปหมดแล้ว ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับพ่อที่แท้จริง คุณแม่สุดสตรองยอมรับว่า อยู่ดีๆ จะให้มาเรียกว่า “พ่อ” ก็คงรู้สึกแปลกๆ คงต้องใช้เวลาสักพัก ด้าน “คุณแม่แอ๋ว” แม่ที่แท้จริงตนไม่เคยหน้าเลย แม้กระทั่งรูป เพราะแม่น่าจะมีโอกาสเลี้ยงดูตนแค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอหน้าแม่แท้จริงสักครั้ง ก่อนรับว่าไม่เคยน้อยใจเรื่องนี้เลย
“อันนี้เป็นคำถามที่ทุกวันนี้ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย พอเราไม่เคยขาดความรัก เรามีแม่อีกคนเหรอแล้วเราจะทำยังไงดี จะเจอแล้วเราจะพูดกับเขาคำแรกว่าอะไร เพราะเราไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีรูป พ่อก็บอกว่าเดี๋ยวจะเป็นตัวกลางให้ อยากเห็นหน้า อยากเจอ อยากรู่ว่าแม่หน้าตาเป็นยังไง สวยเหมือนเรามั้ยหรือสวยกว่า” แพทกล่าว
ส่วนกับสามี “เบนซ์ เรซซิ่ง” ที่ขณะนี้ยังอยู่ในเรือนจำ เจ้าตัวเผยว่าได้ไปเยี่ยมสามีอยู่เป็นประจำ แต่พอถามว่าอนาคตกับสามีจะดำเนินอย่างไรต่อไป คุณแม่สุดสตรองบอกว่า ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ แต่ยอมรับว่าการเป็นซิงเกิ้ลมัมเหนื่อยมากต้องรับผิดชอบทุกอย่างของลูกรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่คนเดียว และไม่ได้เรียกร้องอะไรจากบ้านฝ่ายชาย แต่ถ้าอนาคตสามีออกจากเรือนจำจะกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์หรือเปล่า สาวแพทบอกว่าคงต้องมานั่งคุยกันทีอีกว่าจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : รายการ ตี 10
“พ่อเชษฐ” ที่แพทเรียกว่า “พี่” มาตลอดชีวิต





