“ตั๊ก” โต้ใช้เงินสามีทำหนัง! เผยชีวิตดี๊ดี “พี่ใหญ่” เอาใจเก่งเวอร์


ลงทุนหลัก 13 ล้านบาท สร้างภาพยนตร์เรื่อง “Sad Beauty เพื่อนฉันฝันสลาย” ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์และเขียนบทภาพยนตร์ ภายใต้บริษัทของตัวเอง “พอยท์ อัพ ฟิล์มส์ จำกัด” ร่วมกับ “เอ็ม พิคเจอร์ส”  สำหรับนักแสดงสุดสตรอง “ตั๊ก – บงกช เบญจรงคกุล” ที่มาออกรายการ “ตกมันส์บันเทิง” ทางช่อง 9 MCOTHD หมายเลข 30  พร้อมกับนางเอกหน้าใหม่ “แอม – ภัควดี เพ็งสุวรรณ”   


โดยตั๊กเปิดใจถึงที่มาของหนังเรื่องนี้ว่า เธอเริ่มต้นทำตั้งแต่ตอนยังอยู่ค่าย “สหมงคลฟิล์ม” ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า “อีโมชันเลิฟ” ก่อนจะพับโปรเจกท์ไปเพราะ “แม่เล็ก – ธนาภา” ของตั๊กป่วย ทำให้ต้องทุ่มเทชีวิตเพื่อดูแลแม่ 

เมื่อถึงเวลานำภาพยนตร์กลับมาทำใหม่จึงมีการปรับเปลี่ยนบทรวมถึงชื่อเรื่อง โดยเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากชีวิตจริงของนักแสดงสุดสตรองกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เสียชีวิตไป และหนังจะเล่าเรื่องในระยะเวลา 12 เดือนก่อนเพื่อนเสียชิวิต เรียกว่าเป็นหนังแนวกลางๆ ไม่ใช่หนังตลาดและไม่ใช่หนังอินดี้ 


นอกจากนี้นักแสดงสุดสตรองยังเผยถึงเรื่องบังเอิญว่า ไปเจอกับสาว “แอม – ภัควดี” นางเอกภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ศาลย่านาค “นางเอกหนังตั๊กไปเจอที่ศาลย่านาค ตอนนั้นตั๊กตั้งใจจะไปขอให้แม่แข็งแรง ตั๊กเลยเข้าไปหาข้อมูลในเว็บไซต์ว่ามีใครรำได้บ้าง เพื่อจะไปรำที่ศาลย่านาค แล้วพอดีไปเจอน้องเขา (แอม) ที่เป็นเด็กนาฏศิลป์อยู่ ซึ่งพอเจอน้องเรารู้สึกว่าหน้าเหมือนเพื่อนตั๊กที่เสียไปจังเลย เพราะเพื่อนตั๊กก็เรียนนาฏศิลป์เหมือนกัน”

ส่วนเรื่องใช้เงินสามี “ใหญ่ – บุญชัย เบญจรงคกุล” มาทำหนังเรื่องนี้ตั๊กชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเธอใช้เงินตัวเองและส่วนหนึ่งมาจากเงินประกันของ “แม่เล็ก” ที่ทำเอาไว้ตอนป่วยซึ่งเป็นจำนวนเยอะมาก และเอ่ยปากชวนคุณสามีใจดีมาร่วมหุ้นด้วยซึ่งออกเงินคนละ 6-7 ล้านบาทเท่านั้น

ก่อนจะเล่าถึงชีวิตส่วนตัวแบบ “เอ็กซ์คูลซีฟ” กับทีมข่าว “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ในมุมสุดน่ารักว่าช่วงนี้ทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่สามีสุดเลิฟดูแลดี๊ดี ช่วยล้างหน้าและเช็ดเครื่องสำอางให้ด้วย พร้อมยอมรับว่าชีวิตคู่มีกระทบกระทั่งกันบ้าง ซึ่งหากตนผิดจะเป็นคนเข้าไปขอโทษสามี ด้วยการยกมือไหว้ธรรมดา เพราะเป็นเด็กกว่า

“คนที่อยู่ด้วยกันเหมือนลิ้นกับฟัน การกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนตอนที่เราแต่งงานใหม่ๆ เราคงไม่ชินอาจจะมีท้อบ้าง แต่พอถึงจุดหนึ่งก็คิดได้ว่าเราแต่งงานมีลูก 1 คนแล้ว เราต้องเข้าใจ พอเราเริ่มเข้าใจทำให้คิดได้ว่าเราเกิดมาต่างกันใช้ชีวิตต่างกันมันก็ไม่แปลก อะไรที่ไม่โอเคเราก็ข้ามๆ ไป แต่สิ่งที่ดีมันมีมากกว่า อย่างเวลาที่ตั๊กเหนื่อยมากเราก็นอนแล้วยังไม่ได้ล้างหน้าเลย เขามาถามว่าตกลงจะล้างหน้าไหม เราก็บอกว่าล้าง! (ทำเสียงงัวเงีย) แต่เราไม่ลุก เขาถามว่าโฟมล้างหน้าอยู่ตรงไหน แล้วเอาโฟมมาถูๆ หน้าตั๊ก ก่อนเอาสำลีมาเช็ดหน้าให้ เช็ดเสร็จแล้วเขาก็ถามว่าจะทาครีมไหม เราบอกว่าทา เขาก็เอาครีมบำรุงมาทาให้ ตื่นเช้าขึ้นมาหน้าตั๊กเหมือนคนมาส์กหน้า (หัวเราะ) เขาน่ารัก ”  :- ไนน์เอ็นเตอร์เทน   

เข้าชม 132 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม