หลังโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปคนขับแท็กซี่ข่มขู่ผู้โดยสาร โดยเหตุขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 เม.ย. 60 บริเวณปากซอยสุขุมวิท 33 ทราบต่อมาว่าคือ บอย – ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าบริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม วัน ดิจิทัลทีวี ที่มายืนโบกรถแท็กซี่ริมถนนพร้อมลูกสาว แต่ปรากฏว่าแท็กซี่คู่กรณีไม่ยอมจอด “บอย-ถกลเกียรติ” จึงทุบไปที่ด้านหลังของรถทำให้คนขับต้องลงมาเคลียร์ โดยบอยยอมชดใช้เงินจำนวน 1,000 บาทเพื่อจบปัญหาเพราะแท็กซี่ขู่ว่ามีปืน
.
ล่าสุดเที่ยงวันนี้ ( 3 เม.ย.2560) ที่ตึกแกรมมี่ “บอย ถกลเกียรติ” ได้แถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวจำนวนมาก โดยเล่าว่าหลังตนและลูกสาวคนโตไปดูภาพยนตร์เสร็จในช่วงค่ำและต้องแวะรับอาหารเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้านพร้อมญาติผู้ใหญ่ ซึ่งตนรออยู่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 33 ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ตอนแรกตนจะเรียกรถอูเบอร์แต่ลูกสาวทักว่ามันผิดกฎหมาย จึงเปลี่ยนมาเรียกรถแท็กซี่ แต่เมื่อเรียกหลายคันแล้วไม่มีคันไหนยอมรับตนและลูกสาว จนได้มาเจอรถแท็กซี่คู่กรณีที่เลี้ยวผ่านแต่กลับขับผ่าน ตนยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มมีอารมณ์โกรธจนบันดาลโทสะจึงใช้เท้าเพื่อสะกิดเรียกให้รถคันดังกล่าวจอด และเมื่อรถจอดตนเตรียมจะเข้าไปนั่ง คนขับได้เดินอ้อมมาด้วยความโกรธมากพร้อมถามว่าทุกรถผมทำไม ? ตนจึงตอบกลับว่าแล้วรถคุณเปิดไฟว่างทำไม จนคนขับแท็กซี่ถามว่ามายิงกันสักนัดไหม? ตนจึงได้ขอโทษเพราะชีวิตลูกผมสำคัญ แถมคนขับยังบอกให้ไหว้ซิ ตนก็ยอมไหว้เพราะผมเองก็ผิดและเป็นต้นเหตุ จึงเสนอไปว่าจะให้ชดใช้เท่าไหร่ ทั้งที่แท็กซี่ไม่ได้เรียกร้องใดๆ ก่อน คู่กรณีจึงเรียกเงิน 1,000 บาท ตนจึงเลยให้เงินไปโดยดี
.
“บอย ถกลเกียรติ” ยังบอกด้วยว่าเข้าใจแท็กซี่ แต่เราต้องแยกกันทีละประเด็นคือไฟว่างแต่ไม่รับ และการที่ตนไปทำลายทรัพย์สินของแท็กซี่ ผมจึงเสนอเงินชดใช้ก็จบ แต่ประเด็นคือมายิงกันสักนัดไหม นี่มันเกินกว่าเหตุ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนคิดว่าเราเป็นเหยื่อของระบบ กฎหมายกำลังจำกัดทางเลือกของระบบ วันไหนผมไม่มีรถ ก็ใช้มอเตอร์ไซค์ สิ่งที่อยากตั้งคำถามคือทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ ตัวเลือกเรามี แต่ระบบคืออะไร ถ้าลูกสาวไม่บอกว่านั่งรถอูเบอร์มันผิดกฎหมาย ผมคงเรียกอูเบอร์ไปแล้ว
.
หลังจากนี้ตนไม่คิดเอาเรื่องใดๆ อยากขอโทษด้วยซ้ำเพราะก็มีส่วนผิด เป็นคนเริ่มก่อนเพราะบันดาลโทสะ แต่ในเชิงกฎมายอาจจะต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้ให้รู้ว่าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น แต่ไม่ต้องการเอาผิดเพราะมันมีความผิดกันทั้งคู่ ซึ่งถ้าไม่มีคลิปออกมาในโลกออนไลน์คงไม่ต้องมาแถลงข่าวและเรื่องคงจบไปแล้ว แต่หลังจากนี้คงไม่เลิกขึ้นแท็กซี่ แต่อยากฝากผู้รับผิดชอบต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
.
ล่าสุดนาย รุ่งนคร ดลกุล วัย 40 ปีคนขับแท็กซี่คู่กรณี ได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกเรียกไปรับความผิด ซึ่งโดนปรับ 1,000 บาทเนื่องจากปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารและปรับอีก 1000 บาทเพราใช้กิริยาไม่สุภาพ พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 30 วัน อบรมมารยาทการขับรถอีก 3 เดือน :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน