หลังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา “โดนัลด์ ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งพิเศษห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเข้าประเทศเป็นเวลา 120 วัน ห้ามผู้อพยพชาวซีเรียเข้าสหรัฐฯ อย่างไม่มีกำหนด และห้ามคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ประกอบด้วยอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย ซูดาน และเยเมน จนจุดกระแสไม่พอใจไปทั่วโลก รวมถึงการประท้วงทั่วสหรัฐฯ ไม่เว้นแม้แต่คนบันเทิงโลกที่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้// ล่าสุดซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด “แองเจลิน่า โจลี่” ดีกรีทูตพิเศษของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ ก็เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงสำคัญด้วยการเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ New York Times เพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับคำสั่งดังกล่าว แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อของทรัมป์// นักแสดงแม่ลูกดกวัย 41 ปี บอกว่า แม้ลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอจะเกิดในต่างประเทศที่แตกต่างกันไป แต่พวกเขาก็ภูมิใจที่เป็นพลเมืองอเมริกัน// เธอเชื่อว่าในยามที่สหรัฐฯ ต้องการความมั่นคงและปลอดภัย การตัดสินใจในเรื่องเหล่านี้ควรจะอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความขลาดกลัว// อีกทั้งยังคิดว่า การที่ปิดประตูใส่ผู้ลี้ภัย หรือแบ่งแยกเชื้อชาตินั้นไม่ใช่แนวทางของอเมริกัน และก็ไม่ได้ทำให้ชาวอเมริกันปลอดภัยขึ้น//
โจลี่ ยังออกโรงเตือนด้วยว่า การแบ่งแยกผู้คนด้วยศาสนานั้นเป็นการกำลังเล่นกับไฟ// และการแสดงออกให้เห็นเป็นนัยว่า ชาวมุสลิมนั้นมีค่าให้ปกป้องน้อยกว่าคนที่นับถือศาสนาอื่นนั้น ก็ยิ่งเติมเชื้อไฟให้กับลัทธิสุดโต่งหรือหัวรุนแรงในต่างแดน// นอกจากนี้นักแสดงออสการ์ ก็ยังเป็นห่วงค่ะว่า เด็กๆ ผู้ลี้ภัยที่มีคุณสมบัติลี้ภัยในอเมริกา จะยังมีโอกาสร้องขอต่ออเมริการึเปล่า// พร้อมแสดงความคิดเห็นด้วยค่ะ เราสามารถบริหารจัดการความปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องกีดกันพลเมืองของทั้งประเทศนั้นๆ แม้แต่เด็กทารก เพราะพวกเขาอันตรายที่เข้าอเมริกา เพียงแค่ว่าพวกเขาเป็นคนประเทศไหน หรือนับถือศาสนาใด