“ตั๊ก มยุรา” ยอมรับคบคนยากเพราะหาคนจริงใจไม่ได้ เผยสิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิต

นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง “ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา” สาวสองพันปีที่อยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY FM เผยในชีวิตนี้ไม่มีเพื่อนเพราะหาคนที่จริงใจไม่ได้ และย้อนเล่าการทำงานในวงการบันเทิงยุคแรก ๆ สุดยากลำบากต้องทำเองทุกอย่าง


พี่ถึงจุดที่แลนดิ้งมานานมากแล้ว ที่เหลือคือโบนัสของชีวิต หมายถึงว่าฉันไม่ต้องการดังมากไปกว่านี้ ไม่ต้องการอยู่หน้าจอตลอดเวลา ?
พี่ตั๊ก : คืออย่างที่บอกยุคมันเปลี่ยนไป วู้ดดี้สังเกตไหมว่าตอนนี้ใครที่อยากอยู่หน้าจอก็จะต้องมีเรื่อง ที่มันไม่ใช่เรียบง่าย ครอบครัวดีน่ารักไม่ใช่ มันต้องมีเรื่องแรง ๆ เพราะว่าพี่ก็ไม่อยากเป็นอย่างนั้น ก็เลยไม่ค่อยได้มีอะไรมาก

เป็นยังไงบ้างระหว่างคนทำธุรกิจกับเป็นเซเลบริตี้ ต่างกันยังไงบ้าง ?
พี่ตั๊ก : ต่างสิ พี่ก็ชอบทำธุรกิจนะ พี่ไม่ชอบสังคม พี่ไม่ชอบไปไหน พี่ไม่มีเพื่อน ตลกไหม


พี่ไม่มีเพื่อน ?
พี่ตั๊ก : พี่ไม่มีเพื่อน พี่ไม่คบใคร แต่เจอหมดนะ เจอคนนี้สวัสดีค่ะเสร็จแล้วก็จบไป จะไม่มีกลุ่มเพื่อน อย่างล่าสุดพี่มีกลุ่มเพื่อนหนึ่งอยู่ในวงการ เฮ้ย! เธอดูแลตัวเอง เธอผอมอยู่เลย เธอรู้ไหมฉันมีเพื่อนตั้ง 5 กลุ่มแน่ะ เราก็บอกฉันไม่มีสักกลุ่ม ซึ่ง 5 กลุ่มนี้มันกินกันทุกวันเลย เดี๋ยวก็ไปกินแชร์ เดี๋ยวก็ไปเจอกัน เดี๋ยวก็ดริ๊งอะไรกันไป พี่ไม่มี ถามว่ารู้สึกยังไงไม่รู้สึก พี่ก็มีความสุขของพี่ เพราะดันทะลึ่งไปมีสเปซ พี่คบคนอยากนะ

ความอยากคืออะไร ?
พี่ตั๊ก : คือเราจะ…อือ! ไว้ก่อน แต่ไม่ได้มองว่า คนนี้จะเข้ามามีผลประโยชน์ไม่ใช่ แต่พี่มีความรู้สึกว่าทุกอย่างอะไรก็ตามถ้ามันยาก มันมักจะมีราคา มองอย่างงี้คือจะมีบางกลุ่มที่แกดีกับฉัน ทำไมแกเป็นอย่างนี้เป็นอย่างงั้น ซึ่งเราก็ไม่รู้ใครจริงใจกับเรา พอเราเจอกันแล้วเราก็จะรู้ไง หาคนจริงใจไม่ได้ ก็เลยไม่มีเพื่อน คนที่รักเรามากที่สุดคือตัวเอง พี่รักตัวเองมากเลย รักเขาน้อยกว่ารักตัวเอง สมัยก่อนนะพี่เคยพูดว่าคุณหนุ่ย สัก 10 กว่าปีแล้วนะ ถ้าไม่มีคุณหนุ่ยอยู่ตอนนี้ ตั๊กไม่รู้จะอยู่ยังไง พี่ก็มีแนวอ้อน ๆ ของพี่อยู่ จะอยู่ได้ไหมก็ไม่รู้ แล้วหันไปถามเขาว่าถ้าไม่มีตั๊กคุณอยู่ได้ไหม ผมอยู่ได้ จบ! เขาก็รักตัวเอง พี่ก็รักตัวเอง เพราะงั้นเรารักตัวเองดีกว่า ไม่มีใครจริงใจกับเราในโลกนี้ แต่จริงไหมล่ะ

อยากจะย้อนกลับไปตอนที่พี่เข้าวงการตอนอายุ 17 วันนั้นกับวันนี้คนละเรื่องเลย ดาราก็น้อยมาก ดังนั้นเราจะเห็นมยุราแทบทุกเรื่อง ทุกอย่าง ?
พี่ตั๊ก : ก็มันดังจริง ๆ ในตอนนั้น อย่างเวลาเปิดหนังเรื่องหนึ่ง ก็จะลงหนังสือพิมพ์อย่างเดียว อีกอาทิตย์หนึ่งถึงจะเห็นในหนังสือพิมพ์ สมัยก่อนจะมีหนังสือพิมพ์เข้าไปอยู่ตามกองถ่าย เมื่ออายุ 17 พี่ได้ค่าตัวครั้งแรก 25,000 บาท พี่ว่าเยอะนะ เพราะงั้นยุคมันเปลี่ยนแล้ว ถ้าย้อนกลับไปมันเหนื่อยมาก ดารารุ่นนี้โชคดีที่สุด ต้องขับรถเอง กระเป๋าแต่งหน้าต้องเอาไปเอง เสื้อผ้าต้องหิ้วไปเอง แล้วสมัยก่อนจะมีคนส่งคิว ขับรถมาเสียบไว้หน้าบ้าน ไม่มีไลน์อย่างสมัยนี้นะ แล้วเราก็มาดูพรุ่งนี้มีซีนอะไร ใส่เสื้ออะไร ชุดนอน 3 ชุด ชุดเที่ยว 3 ชุดก็ว่าไป แล้วเราก็จัดใส่รถไป ไม่มีแผนกคอสตูมให้เราเดาเอาเอง ในสมัยนั้นพระเอกนางเอกก็ขนเสื้อผ้าไปเองและแต่งหน้าเอง แต่ว่าพอมาละครก็ดีขึ้น ก็มีช่างมาแต่งหน้า ก็มาตามยุคสมัย เพราะงั้นพี่โชคดีพี่อยู่ทุกสมัย เห็นทุกสมัย มันก็น่าสนุก


ที่ผ่านมาตลอดชีวิตนี้ เรื่องที่ทำให้พี่สุขที่สุดคือเรื่องอะไร ?
พี่ตั๊ก : สุขแรกคือการเป็นตัวเอง เพราะพี่ไม่ใช่เด็กเรียนหนังสือ พี่ขี้เกียจเรียนมาก แม่ให้ไปเรียนให้ไปซื้อชุดบัลเล่ต์พี่เป็นเด็กนาฎศิลป์ เอาไปทำอย่างอื่น ไม่เอาไม่ชอบเรียน เราก็เลยต้องไขว้คว้า ดันไปเชื่อพระ บอกว่าเราวาสนาดีที่สุดในพี่น้อง สมัยก่อนดาราเป็นยากมาก พี่ก็อยากเป็นดารา หน้าตาเราก็เริ่มดี ก็ฝั่งอยู่ในหัว พี่คิดว่าคนเราถ้าอยากทำอะไรจิตมันจะบอก คิดอยู่ตลอดว่าฉันน่าจะได้เป็นดารา ปรากฎว่าไปเดินชอปปิง สมัยก่อนเป็นห้างไทยไดมารูไปกับแม่ก็มีแมวมองเขาถ่ายรูปไป พี่ก็เริ่มได้ถ่ายหนังสือลลนา ขึ้นปกหนังสือ นั่นแหล่ะคือที่มาของการเป็นดารานักแสดง

ตอนเป็นดาราสมัยนั้นต้องปิดหลายเรื่องไหม ?
พี่ตั๊ก : คบกับใครหรือมีคนจีบพูดไม่ได้ ถ้าจะมารับต้องจอดอยู่ในรถ มีแฟนแล้วความนิยมจะตกเขาคิดอย่างงี้ไง สมัยก่อนเราเด็กก็ไม่รู้เรื่อง สมัยก่อนเราก็ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเลยเพราะเด็ก พูดอะไรก็จะกลัวหมดไม่กล้าพูดไม่กล้าตอบ แต่การเป็นพิธีกรมันฝึกให้เรากล้า พี่เพิ่งมากล้าตอนหลังนี่แหล่ะ ตอนแต่งงานยังไม่กล้ามาก

พิธีกรแรกคือรายการอะไร ?
พี่ตั๊ก : ก่อน 7 สีคอนเสิร์ต มี 2 รายการพร้อมกันเลย มีรายการโชคติดปุ่มอะไรสักอย่างแล้วก็ทำช่อง 7 ทั้งสองอัน นั่นแหล่ะรายการสดมันสอนเรา มันต้องเป๊ะมันต้องแก้ปัญหา ซึ่งตอนนั้นคู่กับ พี่เบิร์ด หลังจากนั้นเบิร์ดก็ไปโด่งดังทำอัลบั้ม หลังจากนั้นก็เป็น แซม ก็มาทำต่อ

ยากที่สุดในการใช้ชีวิต ?
พี่ตั๊ก : การมีชีวิตคู่ คุณหนุ่ยนี่อยู่มากกว่าพ่อแม่นะ วู้ดดี้สักเกตไหมว่าเด็กรุ่นใหม่อยู่กันไม่ค่อยรอด ขีดความอดทนมนุษย์สมัยพี่มันมีมากกว่า ผู้หญิงมันจะอดทน จะเจอเรื่องมากมายเข้ามาในชีวิต ตอนแรกเราแต่งก็โอเคเราเลือกคนนี้ถูกแล้ว เราจะไปตายเอาดาบหน้า เราไม่ได้คิดถึงตอนที่จะมีเรื่องอะไร พอเรามีชีวิตคู่ปุ๊บเคยเหนื่อยแค่นี้เราต้องเหนื่อย 2 อย่าง การที่ต้องคอนโทรล และต้องอยู่กับคนที่มาจากอีกครอบครัวหนึ่ง อยู่มากกว่าพ่อแม่เรา แล้วทำยังไงที่จะให้มันจูนอยู่ได้ตลอดเวลา เพื่อให้ศิลป์เสมอกัน นั่นคือการทดสอบ ยากนะ แต่มันก็ทำได้

กลัวอะไรมากที่สุด ?
พี่ตั๊ก : กลัวตายยังไม่อยากตาย เราเกิดในครอบครัวธรรมดา เราก็จะมีลูกหลานที่ต้องดูแล เหมือนเราไม่ปล่อยวาง เรายังต้องดูเขาอยู่ แต่บางบ้านในเวลาเขามีครอบครัวแล้วไม่เอาลูกหลานเลยนะ ชีวิตของพี่ย้อนกลับไปที่ความสุข สุขของพี่คือครอบครัว ครอบครัวพี่ก็ต้องดีด้วย เพราะฉะนั้นคนใกล้ตัวพี่ต้องมีความสุขด้วย เพราะฉะนั้นยังตายไม่ได้

เข้าชม 2,658 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม