ท่ามกลางความพยายามของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯ ในการเดินหน้าคำสั่งห้ามผู้อพยพและคนจาก 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศชั่วคราว หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นให้ระงับคำสั่งเป็นการชั่วคราว ก็ดูเหมือนว่าจะเติมเชื้อไฟให้ให้ผู้คนต่างออกมาแสดงความเห็นต่างๆ กันไป โดยเฉพาะเหล่าคนบันเทิงโลกที่ใช้เวทีประกาศรางวัลต่างๆ ในช่วงนี้มาเป็นพื้นที่แสดงจุดยืนทางการเมือง ไม่เว้นแต่รันเวย์แฟชั่นที่กลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดเห็นเช่นกัน
เพลง This is Not America ที่มีนัยนะสื่อถึงสันติภาพ และเสรีภาพของร็อกเกอร์ระดับตำนานผู้ล่วงลับ “เดวิด โบวี่” ถูกตั้งใจหยิบมาเปิดในตอนต้นและท้ายแฟชั่นโชว์ของแบรนด์สัญชาติอเมริกัน Calvin Klein เพื่อเปิดตัวคอลเล็คชั่นแรกภายใต้การกุมบังเหียนของครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์คนใหม่ “ราฟ ซิมง”
นอกจากจะใช้เพลงในการสื่อสารความคิดเห็นแล้ว แบรนด์เสื้อผ้าดังยังมีกิมมิคส่งผ้าพันคอสีขาวที่มีข้อความสื่อถึง ความสามัคคี ความหวัง และการยอมรับซึ่งกันและกัน พร้อมเชิญชวนให้ผู้ชมพร้อมใจกันพันผ้าพันคอนี้มาร่วมงาน ซึ่งก็สอดคล้องไปกับเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นนี้ที่มีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่เมื่อมารวมกันก็เข้ากันได้ดี เช่นเดียวสังคมอเมริกันที่มีคนหลากเชื้อชาติหลายวัฒนธรรมมาอยู่ร่วมกัน
ในขณะเดียวกัน “ราฟ ซิมง” ครีเอทีฟไดเรคเตอร์แบรนด์ดัง ก็เปิดใจว่า ในเมื่อเรามีเสียง ที่จะป่าวประกาศให้ผู้อื่นได้ยิน เราก็ควรใช้มันให้เป็นประโยชน์ ("When you have a voice, you should use it,")
ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับแบรนด์ Tommy Hilfiger ที่ให้เหล่านายแบบ นางแบบ ผูกผ้าสีขาวที่ข้อมือ เป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
แต่ที่แสดงออกทางความคิดอย่างชัดเจน ไม่ใช้นัยยะแฝง ต้องยกให้กับแบรนด์ LRS Studio เพราะดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ “ราอูล โซลิส” อพยพมาจากเม็กซิโกก่อนจะมาเติบโตในลอส แองเจลิส เลือกที่จะแสดงความเห็นแบบตรงไปตรงมา ด้วยการให้นางแบบใส่กางเกงในตัวจิ๋วที่มีข้อความสุดเผ็ดร้อน ตำหนิเรื่องการที่ทรัมป์ลงนามคำสั่งพิเศษสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก หวังสกัดคลื่นผู้อพยพและผู้ลักลอบเข้าประเทศ โดยราอูลเปิดใจกับนิตยสาร W ว่าเอาเข้าจริงแล้ว เขาก็ไม่อยากให้งานของเขาไปเกี่ยวข้องกับการเมืองสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันอดไม่ได้จริงๆ
ในขณะที่ “ทาดาชิ โชจิ” ดีไซเนอร์แดนอาทิตย์อุทัยที่ไปลงหลักปักฐานในแอลเอ ก็เปิดใจกับสำนักข่าว AP ในงานเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ของเขาที่นิวยอร์กแฟชั่นวีค ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับทรัมป์ เพราะตัวเขาก็เป็นผู้อพยพ และพนักงานมากกว่าครึ่งในบริษัทของเขาก็เป็นผู้อพยพเช่นกัน ซึ่งแนวคิดของทรัมป์ก็ขัดกับหลักการทำงานของเขา เพราะเขาไม่เคยคิดแบ่งแยกคนจากเชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือแม้แต่รูปร่างเลยแม้แต่น้อย
